นายกฯเล็งลด-เลิกเคอร์ฟิว แต่ห่วงคนแห่เที่ยวสถานบันเทิง

01 ก.ย. 2564 | 10:51 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ย. 2564 | 18:01 น.
1.0 k

"บิ๊กตู่"แย้มกำลังพิจารณาปรับลด-เลิกเคอร์ฟิว ตัวเลขจะมากขึ้นหรือไม่ ยอมรับห่วงคนแห่เที่ยวผับบาร์-สถานบันเทิง มอบผู้ประกอบการหารือกับศบค. ยันต้องฟังเสียงสาธารณสุขก่อน

        วันที่ 1 ก.ย.  2564 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเข้าร่วมรับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันที่ 2 กล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการโควิดในวันนี้เป็นวันแรกว่า ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตการต่างๆที่ออกมาอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากดีขึ้นก็จะทำได้มากขึ้น ส่วนการปรับลดหรือยกเลิกเวลาเคอร์ฟิวนั้น กำลังพิจารณาแต่ให้ผ่านระยะนี้ไปก่อน เพื่อดูว่าตัวเลขจะมากขึ้นหรือไม่ แต่การเคลื่อนไหวกลางคืนส่วนใหญ่ก็จะไปสถานที่ท่องเที่ยวสถานบันเทิงซึ่งในส่วนนี้ยังเป็นปัญหาอยู่ ตนถึงบอกให้สมาคมที่รับผิดต้องหรือผู้ประกอบการกลางคืน ผับ บาร์ต้องพูดคุยกันผ่านช่องทางศบค.อยู่แล้ว เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาโดยให้สาธารณสุขและแพทย์ดูแล ซึ่งนายกฯ สั่งไม่ได้ ตัดสินใจไม่ได้ถ้าไม่ฟังสาธารณสุข เพราะหากผิดพลาดขึ้นมาก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งที่พูดในสภากันเรื่องเหล่านี้เหมือนยังไม่เข้าใจการบริหาร

   

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่ปัญหาการจัดซื้อชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit (ATK) 8.5 ล้านชุดจะให้ความมั่นใจประชาชนได้อย่างไรนั้น ต้องถามมั่นใจว่าอย.หรือไม่ ที่ผ่านมาทำงานตรวจสอบยาและเวชภัณฑ์มาโดยตลอด ซึ่งATK นั้นมีหลายสิบบริษัท โดยอย. พิจารณาตรวจสอบแล้ว และมีใช้ที่ต่างประเทศด้วย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาอาจมีความผิดพลาดด้านเอกสารถึงต้องมีการปรับใหม่ ซึ่งไม่ได้ปรับเพื่ออำนวยความสะดวกใครแต่สำคัญคือทำอย่างไรถึงจะได้คุณภาพที่ดีและมีราคาถูกที่สุด ทั้งนี้ย้ำว่า ATK 8.5 ล้านชุดนี้รัฐบาลนำไปแจกจ่ายฟรี ในพื้นที่สีแดงเข้ม ส่วนอื่นๆบางคนมีทางเลือกมีเงินก็ซื้อได้ โดยขณะนี้กำลังให้พิจารณาค่าใช้จ่าย ATK ตามสิทธิ และขอให้เข้าใจทุกอย่างไม่ง่าย แต่นายกฯ พยายามแก้ตามลำดับ ซึ่งตนก็เสียใจและขอโทษหากทำให้ฟังคนไม่พอใจเพราะเสียใจกับการสูญเสียเพราะตัวเองก็เคยสูญเสียพ่อแม่
 

 ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจว่าขณะนี้ระบบสาธารณสุขยังรับมือได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์  ยืนยันว่ารับมือได้ ก่อนหน้านี้ต่างชาติก็มาท่องเที่ยวและเข้ามารักษาในประเทศไทยและมั่นใจในระบบสาธารณสุขของเรา แต่วันนี้ต้องเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นโรครุนแรงและรวดเร็วไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงอาจทำให้ขีดความสามารถลดลงบ้าง แต่ก็พัฒนามาเรื่อยๆ ตามลำดับ ถ้าไม่มั่นใจระบบสาธารณสุขและคนของเรา นอกจากนี้ทำไมวันนี้ไม่ดูตัวเลขรักษาหายเท่าไหร่ ถ้าเอาแต่ตัวเลจคนป่วยคนตายไม่เป็นธรรม ย้ำว่าวันก็ต่อไปจะดูให้ในเรื่องการเคอร์ฟิว ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้นไม่สามารถไปห้ามได้ แต่อย่าลืมเป็นปัญหาต้องแก้ซ้ำ ตนไม่โยนความผิดให้ใคร แต่ขอความเป็นธรรมรัฐบาล และ สาธารณสุขด้วย