“ฝ่ายค้าน”ลุยซักฟอก “นายกฯ-เสี่ยหนู” 3 วันรวด

31 ส.ค. 2564 | 09:49 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ส.ค. 2564 | 17:27 น.

พรรคฝ่ายค้าน ลุยซักฟอก “บิ๊กตู่-เสี่ยหนู” 3 วันรวด "สุทิน" เชื่อพรรคใหญ่ยืมมือฝ่ายค้านเลื่อยขากันเอง ขณะที่ "หมอชลน่าน"ชี้อภิปรายหนนี้อาจส่งผลให้รัฐมนตรีหลายคนหลุดจากตำแหน่งได้

วันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลในวันนี้เป็นวันแรกว่า พรรคฝ่ายค้านมีความพร้อมที่สุด โดยการอภิปรายฯจะเริ่มต้นด้วยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าผู้นำฝ่ายค้านเสนอญัตติฯ จากนั้นนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้ขยายความต่อ ส่วนตนจะอภิปรายฯสรุปเป็นคนสุดท้ายในวันสุดท้าย ซึ่งคิวรัฐมนตรี เริ่มต้นจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เชื่อว่าจะใช้เวลาเกือบ 3 วันในการอภิปรายฯ จากนั้นก็เป็นรัฐมนตรีรายอื่นตามลำดับต่อไป ส่วนเนื้อหาจะเริ่มตั้งแต่เรื่องโควิด-19 จนถึงการทุจริตต่างๆ ยืนยันว่าทุกคนมีความพร้อม ทั้งนี้มองว่าช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดลดลงรวดเร็วมาก หากยืดเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปอีก เชื่อว่าตัวเลขจะลดลงอีกจนผู้ติดเชื้อหมดไป

 

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะถูกยืมมือไปใช้ในการเลื่อยขากันเองในพรรคใหญ่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ ในการอภิปรายทุกครั้งรัฐบาลจะใช้โอกาสนี้เล่นงานกันเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่สุดวิสัย ถ้ามองในแง่ดีใครเป็นจุดอ่อนก็ถูกอภิปราย เราก็มองแบบนั้นเหมือนกัน ดังนั้นก็ไม่เหนือความคาดหมาย
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย

ด้านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย   เปิดเผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล  ครั้งนี้พรรคฝ่ายค้านได้รับข้อมูลข้อเท็จจริงมากมายจากหลายฝ่าย ข้อมูลที่ฝ่ายค้านมีอยู่อาจส่งผลให้รัฐมนตรีหลายคนหลุดจากตำแหน่งได้  ทั้งนี้ความเลวร้ายที่รัฐบาลซ่อนไว้มีอะไรบ้าง ประชาชนจะเห็นภาพความล้มเหลว  และการจงใจที่จะเอาชีวิตประชาชนมาเป็นฐานในการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ใส่ตัว

 

นอกจากนี้พรรคฝ่ายค้านจะฉายภาพของความไม่ซื่อสัตย์  ไม่สุจริต ประชาชนจะได้เห็นความเสียหายในทุกแง่มุมของประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงการสาธารณสุข การที่พลเอกประยุทธ์ ออกมาบอกว่า รัฐบาลตัวเองไม่เคยทุจริต แต่ในความเป็นจริงรัฐบาลใช้ทุกกลไกของรัฐในการปกปิดความผิดของตัวเอง และลอยตัวเหนือปัญหาทุกอย่าง   รัฐบาลต้องตอบคำถามว่าเหตุใดจึงมีการหักผลประโยชน์ทุกขั้นตอน มีภาคเอกชนถึงกับเอ่ยปากว่าทุกโครงการของรัฐต้องหักร้อยละ 35 เก็บไปให้ใคร ผู้มีอำนาจคนไหนรับผลประโยชน์จากโครงการรัฐ 

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พยายามออกมาโจมตีฝ่ายค้าน และกล่าวหาว่า ชอบเล่นนอกกติกานั้น เพียงที่จะปกป้องพลเอกประยุทธ์ เท่านั้นเพราะกลัวการสูญเสียอำนาจ ซึ่งเป็นการทำงานการเมืองแบบโบราณ ที่หวังเอาชนะกันทางการเมืองโดยไม่สนข้อเท็จจริง

 

การที่รัฐบาลตั้งนายธนกร เป็นโฆษกรัฐบาล เหมือนการจุดเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งในสังคม นายธนกร จะเป็นเชื้อไฟอย่างดี ในการสร้างความขัดแย้งของคนในชาติ ที่เป็นเชื้อปะทุคอยปะทะไม่ได้เป็นผลดีของรัฐบาล ทั้งที่การสื่อสารกับประชาชน ต้องสร้างความเชื่อมั่น การใช้อำนาจตั้งคนที่ไม่เหมาะสมกับงาน ส่งผลให้วิกฤตศรัทธาของรัฐบาลขยายวงกว้างมากขึ้น