“หญิงหน่อย”จี้รัฐยกเลิก“ล็อกดาวน์”แบบเหวี่ยงแห เร่งสั่งวัคซีน mRNA

20 ส.ค. 2564 | 17:33 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ส.ค. 2564 | 00:42 น.

“หญิงหน่อย”จี้รัฐบาลรับผิดชอบหลังผู้ติดเชื้อโควิดทะลุ 1 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 8,500 คน แนะยกเลิก “ล็อกดาวน์”แบบเหวี่ยงแห-เร่งสั่งวัคซีน mRNA ให้เป็นวัคซีนหลัก-จัดหา ATK แจกพื้นที่สีแดง-ขายทั่วไปชิ้นละ 30 บาท 

วันนี้ (20 ส.ค.64) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “โควิดก็หนัก เศรษฐกิจก็ทรุดประเทศไทยจะไปทางไหน ???” ระบุว่า

 

วันนี้ประเทศไทยตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 1 ล้านคน เสียชีวิตสะสมมากกว่า 8,500 คน 

หยุด! ผลักภาระให้ประชาชน

รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียของประชาชน ทั้งชีวิต และเศรษฐกิจ
ดิฉันพูดหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. ว่า Lockdown โดย "ห้ามประชาชนทำมาหากิน" เพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถสยบการระบาดได้ภายในเร็ววัน  ถ้ารัฐบาลไม่ "เร่งตรวจ" หาผู้ติดเชื้อ และ "แยกผู้ติดเชื้อ" ออกจากครอบครัว และชุมชน เพราะรัฐบาลได้ปล่อยปละละเลย ไม่ควบคุมการระบาดจนทำให้ระบาดในระดับชุมชนไปแล้ว 

 

จะเห็นได้ว่ารัฐบาลสั่ง Lockdown มาตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.64 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 54 วันแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต ไม่ได้ลดลงเลย มีแต่พุ่งสูงขึ้น

                               “หญิงหน่อย”จี้รัฐยกเลิก“ล็อกดาวน์”แบบเหวี่ยงแห เร่งสั่งวัคซีน mRNA

รัฐบาลไม่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ ทั้งการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ซึ่งทุกวันนี้รัฐบาลตรวจน้อยมาก และตรวจน้อยลงทุกวัน จากตรวจวันละเกือบแสน ปัจจุบันตรวจหลัก 5-6 หมื่น เท่านั้น การเร่งนำผู้ติดเชื้อออกจากชุมชน โดยการเพิ่ม CI ให้พอเพียง  

 

"บริหารแบบตามยถากรรม เป็นการผลักภาระให้ประชาชน ไปดิ้นรนหาทางเอาชีวิตรอดกันเอง และยังสั่งห้ามทำมาหากินอีก ทำให้ประชาชนทุกข์ซ้ำ ไม่มีรายได้ ต้องอดอยาก อย่างแสนสาหัส รวมทั้งเป็นการผลักภาระให้คุณหมอ พยาบาล ต้องทำงานหนักขึ้น"

 

ถ้าปล่อยบริหารตามยถากรรมแบบนี้ เศรษฐกิจไทยจะทรุดหนัก และที่สำคัญ "ประเทศไทยจะฟื้นตัวทางเศรษฐกิจช้าที่สุดในอาเซียน ปีนี้จึงยังไม่ใช่เผาจริง ปีหน้าจะหนักกว่านี้"

ทางออก คือ รัฐบาลต้องทำให้ประชาชนคนไทยสามารถอยู่กับโควิดได้อย่างปลอดภัย มากกว่านี้ เร่งเปิดการทำมาหากิน ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด
คำตอบคือ

 

1. ยกเลิก Lockdown แบบเหวี่ยงแห ทำ Smart Lockdown  ให้คนส่วนใหญ่กลับมาทำมาหากินได้ 

 

2. เร่งสั่งวัคซีน mRNA ให้เป็นวัคซีนหลักของประเทศ คู่กับ AstraZeneca โดยต้องสั่ง mRNA อีก 50 ล้านโดส เป็นอย่างน้อย เพื่อให้ประเทศไทยมีวัคซีนAZ และ mRNA อย่างน้อย 150 ล้านโดส เพื่อฉีดให้คนไทยทุกคนอย่างเพียงพอ และต้องฉีดให้รวดเร็ว รวมทั้งให้ประชาชนได้มีทางเลือก ว่าจะฉีด mRNA หรือ AstraZeneca

 

3. เร่งจัดการกับการระบาดรอบนี้ให้จบเร็วที่สุด เร่งตรวจ โดยสั่ง ATK แจกประชาชนในพื้นที่สีแดง แดงเข้ม และให้มีการขายทั่วไปชิ้นละ 30 บาท (โดยรัฐจ่ายส่วนต่าง) รวมทั้งเร่งทำ CI ให้เพียงพอ