ปชป.ยก“เลือกตั้งบัตร 2 ใบ”ขยายสิทธิประชาชนเลือกตัวแทนไปตั้งรัฐบาล

27 มิ.ย. 2564 | 13:52 น.

ปชป.ยกระบบ “เลือกตั้งบัตร 2 ใบ” ขยายสิทธิเสรีภาพการเลือกตัวแทนของประชาชนเพื่อไปจัดตั้งรัฐบาล เป็นการนับหนึ่งแก้รธน.เพื่อประชาชนบนพื้นฐานการเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากขึ้น

ในวันอังคารที่ 29 มิ.ย.นี้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่ว่าด้วยระบบ "เลือกตั้งบัตร 2 ใบ" จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเป็นครั้งแรก คาดว่าจะพิจารณาชั้นกรรมาธิการ ราว 60 วัน ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา วาระที่ 2 และ 3  จากนั้นจะมีการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ ร่างไขแก้รัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องระบบเลือกตั้งที่เสนอ มีการแก้ใน 2 มาตรา คือ มาตรา 83 และ มาตรา 91  
สำหรับ มาตรา 83 เดิมกำหนดให้มี ส.ส.500 คน แบ่งเป็นส.ส.เขต 350 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน 

จะเปลี่ยน เป็นกำหนดให้มีส.ส. 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต  400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน

ส่วน มาตรา 91 เดิม ใช้วิธีคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค โดยนำคะแนนรวมทั้งประเทศที่ทุกพรรคการเมืองส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้รับจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต หารด้วย 500 คน แล้วนำผลลัพธ์ไปหารจำนวนคะแนนรวมทั้งประเทศของพรรคการเมืองแต่ละพรรคที่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตทุกเขต เพื่อหา “จำนวน ส.ส.ที่พรรคการเมืองพึงมี" แล้วลบด้วยจำนวน ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้งที่พรรคนั้นได้รับเลือกตั้งในทุกเขต ก็จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่พรรคนั้นจะได้รับ
แต่จะเปลี่ยนเป็นใช้บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ แล้วคำนวณคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ มาคำนวณเพื่อแบ่งเก้าอี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แทน 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญที่แม้ร่างที่เสนอให้แก้ระบบเลือกตั้งโดยใช้บัตร 2ใบจะผ่านการพิจารณาของสภา แต่ในรัฐธรรมนูญ 60 ยังมีมาตราที่เกี่ยวกับเลือกตั้งมากกว่า 2 มาตรา จะเป็นอุปสรรคในการแปรญัตติหรือจะต้องยื่นร่างเพิ่มเติมหรือไม่ว่า ไม่คิดว่าจะเป็นอุปสรรคและได้สอบถามฝ่ายกฎหมายเบื้องต้นแล้วคิดว่า ไม่ได้มีปัญหาอุปสรรคอะไร 

เพราะการที่รัฐสภามีมติรับหลักการไปแล้ว เมื่อรับหลักการแล้วว่า จะแก้รัฐธรรมนูญมาตราใดบ้าง ที่เป็นหลักสำคัญ เมื่อเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 ในส่วนของการแก้ไข หากจะต้องไปกระทบกับมาตราใดบ้าง ก็สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการที่รับมา เพราะฉะนั้นจะระบุกี่มาตรา ก็ไม่เป็นไร มาตราที่เหลือก็จะต้องปรับให้สอดคล้องกับมาตราที่รับหลักการไป

“เบื้องต้นเท่าที่คุยกับฝ่ายกฎหมายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วก็ไม่อยากให้ตีตนไปก่อนไข้ด้วย เพราะเราก็ต้องจับมือกันกับทุกฝ่ายที่จะช่วยเข็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความสำเร็จ แม้ว่ามันจะเป็นการเข็นครก ก็ตามแต่ว่าถ้าช่วยกันหลายๆ แรง ทั้งในส่วนของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน สมาชิกวุฒิสภา ผมก็คิดว่า ครกมันก็ขึ้นไปถึงภูเขาได้ เพราะฉะนั้นสำคัญก็คือขอให้ร่วมมือร่วมใจกัน”

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงอีกว่า การเปลี่ยนระบบเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวเป็นบัตร 2 ใบนั้น เท่ากับเป็นการขยายสิทธิเสรีภาพในการเลือกตัวแทนของประชาชนเพื่อไปจัดตั้งรัฐบาลต่อไปในอนาคต

"ถ้าเราได้รัฐบาลที่ดี รัฐบาลที่เข้าใจปัญหาประชาชน รัฐบาลที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนได้ รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ประชาชนก็จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง" 

นายจุรินทร์ ยืนยันว่า ในวาระที่ 3 นี้ ก็จะพยายามผลักดันให้การแก้รัฐธรรมนูญประสบความสำเร็จ แม้จะเหลือแค่ร่างเดียว คือ ร่างของประชาธิปัตย์ แต่ถือว่านี่คือการนับหนึ่งในการที่จะก้าวต่อไปที่จะทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นในประเด็นอื่นได้ แม้จะเสียดายกับอีก 5 ร่างอีกของประชาธิปัตย์ที่ตกไป อย่างน้อยร่างที่เหลือ 1 ร่าง เราก็จะพยายามทำหน้าที่เต็มที่ไม่วอกแวก ไม่เปลี่ยนใจ

 

ขณะที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ออกมายืนยันว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 6 ร่างของพรรค เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของประชาชน รวมทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ใช้ระบบบัตร 2 ใบที่ผ่านขั้นรับหลักการของรัฐสภามาแล้ว ประชาธิปัตย์ก็เสนอแก้ไขเพื่อประโยชน์ของประชาชนบนหลักการสำคัญ 3 ประการคือ

1. เพื่อสนับสนุนการใช้อำนาจอธิปไตยผ่านการเลือกตั้งเป็นอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริง  

2. ประชาชนสามารถแสดงออกถึงเจตจำนงของตนในการคัดกรองผู้แทนเข้าสู่อำนาจ ไม่ต้องถูกมัดมือชกว่าต้องเลือก ส.ส.เขต

และ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคจากบัตรใบเดียว แต่สามารถเลือก ส.ส.เขต และพรรคที่แยกกันจากบัตร 2 ใบ ทำให้ประชาชนมีทางเลือกตามเจตจำนงของตนได้มากขึ้นกว่าระบบบัตรใบเดียว 

3. ทำให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิ เสรีภาพ ผ่านการเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ในหมวดว่าด้วยสิทธิ เสรีภาพ        

“การที่สมาชิกรัฐสภาผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงหนึ่งร่างของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ถือเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนบนพื้นฐานของการเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากขึ้นต่อไป” นายองอาจ ระบุ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :