"แรมโบ้"จวก"หญิงหน่อย" ใส่ร้ายคนอื่น อย่าหวังได้ส.ส.เข้าสภา

09 มิ.ย. 2564 | 12:40 น.
อัปเดตล่าสุด :09 มิ.ย. 2564 | 12:51 น.

"แรมโบ้"ร่ายยาว จวก"สุดารัตน์"เล่นการเมืองใส่ร้ายคนอื่นรายวัน เลือกตั้งอย่าหวังมีส.ส.เข้าสภา เตือนตีจากเพื่อไทยระวังถูกด่า"เนรคุณทักษิณ"

วันที่ 9 มิถุนายน 2564 นายเสกสกล  อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ ในรายการ กรองข่าว ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่น ทีวี เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน มีการพาดพิงกล่าวหานายกฯหลายประเด็นนั้น โดยนายเสกสกล กล่าวว่า ประเด็นแรกที่ คุณหญิงกล่าวหาว่า นายกฯเป็นเผด็จการ มาตามรัฐธรรมนูญซ่อนเงื่อน เป็นเผด็จการที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตยนั้น ขอเตือนว่า คุณหญิงจะหาเสียงให้พรรคใหม่อย่างไทยสร้างไทยแล้วไปประดิษฐ์คำสวยหรูอะไรมาก็ไม่ว่าอะไรกัน แต่อย่ามาเที่ยวประดิษฐ์สำนวนโวหารป้ายสีคนอื่น 

แทนที่คุณหญิงควรที่จะนึกถึงสมัยอยู่พรรคไทยรักไทยและเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ถูกประชาชนประนามว่า เป็นระบอบทักษิณ เป็นเผด็จการรัฐสภาเสียงข้างมากลากไป ออกกฎหมายผ่านสภาฯหลายฉบับเพื่อเอื้อประโยชน์ของผู้นำบางคนในพรรคขณะนั้น ทำไมคุณหญิงจึงไม่ออกมาต่อว่าด่าทอโจมตีเหมือนเช่นทุกวันนี้บ้าง หรือมีอะไรปิดหูปิดตาปิดปากคุณหญิงไว้  ตนจึงขอให้คุณหญิงมีจิตใจเป็นธรรม เป็นกลางบ้าง อย่าคิดเพียงแค่ใครไม่ใช่พวกคุณหญิงก็จะใส่ความโจมตีให้แหลกคามือแบบไร้เหตุผลเพราะความอาฆาตแค้นส่วนตัวหรือเปล่า 

การจะเป็นนักการเมืองที่ดีจะต้องมีจุดยืน มีอุดมการณ์ที่มั่นคงมีเหตุผลและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่บ้าง ต้องยึดหลักข้อเท็จจริงและพูดความจริงกับประชาชน ไม่ใช่เอาแต่เรื่องเท็จมาบิดเบือนเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อนายกฯและรัฐบาลตลอดมา  เพียงแค่เริ่มต้นของพรรคใหม่ได้ไม่นาน เปรียบเหมือนเด็กยังตั้งไข่ หัดเดิน ก็มาเล่นวาทะการเมืองโจมตีระบายสีสาดสีใส่คนอื่น นี่คือสไตล์นักการเมืองน้ำเน่า ที่มีตรรกะความคิดและการพัฒนาการเมืองถอยหลังลงคลองน้ำเสียมากกว่าที่จะเป็นพรรคการเมืองน้ำดี คุณหญิงอย่าทำตัวเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่เลย มิเช่นนั้นคุณหญิงจะเสียภาพพจน์และเสื่อมคุณภาพในสายตาประชาชนไปเรื่อยๆ ตนไม่อยากเห็นคุณหญิง มีภาพพจน์เป็นเช่นนั้น ไม่อยากเห็นคุณหญิงตกต่ำในสายตาประชาชนและไม่อยากเห็นพรรคที่คุณหญิงสร้างขึ้นมาใหม่ แต่กลายเป็นพรรคที่เล่นการเมืองไม่สร้างสรรค์จะหวังเป็นที่พึ่งพาของประชาชนแทบมองไม่เห็นเลยสักนิด  แล้วพรรคนี้จะมีประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชนได้อย่างไร

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

การกล่าวหานายกฯถ้าจะพูดความจริงตนก็อยากชี้แจงครั้งที่นับไม่ถ้วนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจจากรัฐบาลในอดีตของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะมีสาเหตุที่ประชาชนคนไทยทราบดีว่า รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ฯปล่อยปะละเลยให้มีการทุจริตมากมายหลายโครงการ มีการเตรียมอภิมหาโปรเจค เพื่อหาเงินทอนส่วนต่างๆใส่กระเป๋าใครบางคน มีการทุจริตเสียหายจากโครงการจำนำข้าวทำชาติเสียหายชาวนาเดือดร้อน

  จนรัฐบาลปัจจุบันต้องมาแก้ปัญหาและใช้หนี้จนทุกวันนี้ ตลอดจนเกิดปัญหาความวุ่นวาย ในบ้านเมืองขัดแย้งกันอย่างรุนแรงนำไปสู่การทะเลาะถึงขั้นประกาศรบราฆ่าฟันกันบนท้องถนน อาจถึงขั้นแผ่นดินนองเลือด เป็นยุคที่เกิดการจลาจลวุ่นวายที่สุดในประเทศ ต่อมาเมื่อเรามีรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการลงประชามติของประชาชน16 ล้านเสียง พล.อ.ประยุทธ์ ก็เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ด้วยการไปอยู่ในบัญชีรายชื่อของผู้ถูกเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมือง จากนั้นรัฐสภาก็เลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไม่มีอะไรที่เป็นเผด็จการเลย มาตามครรลองทั้งนั้น มีแต่พรรคเพื่อไทย ของคุณหญิงต่างหากที่กลับไปสนับสนุน นายธนาธร มาแข่งขันเป็นนายกฯ ทั้งที่คุณหญิงฯเป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯของพรรคเพื่อไทย ทำไมคุณหญิงฯจึงไม่เสนอตัวเองให้สภาเลือกเป็นนายกฯ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีเสียงมากกว่ากลับไปหนุนพรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร ที่มีเสียงน้อยกว่า อย่างนี้เขาเรียกว่าประชาธิปไตยแบบไหนกัน  คุณหญิงคิดได้อย่างไร ไม่ใช่เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยของคุณหญิงขณะนั้น ไม่เห็นหัวประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ มีเสียงมากกว่ากลับไปสนับสนุนพรรคที่มีเสียงน้อยกว่ามาเป็นนายกฯเป็นการทรยศเสียงประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ คิดแค่นี้ก็ไม่เป็นประชาธิปไตยแล้ว คิดแต่ประโยชน์ส่วนตัวที่จะเอาชนะพลเอกประยุทธ์ให้ได้ เพราะความอิจฉาริษยาอาฆาตโกรธแค้นส่วนตัวใช่ไหม ตนสงสัยมาก ประชาชนภาคอีสานที่เลือกพรรคเพื่อไทยยังมีเสียงบ่นมาว่า เสียใจผิดหวังอุตส่าห์เลือกส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่กลับไปเลือกธนาธร คนที่คิดก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบันฯจะมาเป็นนายกฯ คุณหญิงจะตอบคำถามนี้ต่อคนที่เคยเลือกพรรคเพื่อไทยและคาดหวังกับคุณหญิงฯที่ทำให้คนอิสานผิดหวังและเสียความรู้สึกอย่างไร
 
“ตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ มาบริหารมา2ปีเศษ ได้ให้ความเท่าเทียมและความเสมอภาคกับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ที่บอกว่าคนตัวเล็กเสียเปรียบและเสียโอกาสในการเจริญเติบโตทางธุรกิจก็ไม่จริง รัฐบาลให้การสนับสนุนและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาตลอด โดยเฉพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ เพียงแต่รัฐบาลโชคร้ายมาเจอวิกฤตโควิด19 กว่า2 ปี ทำให้ธุรกิจเหล่านั้นประสบปัญหา การที่คุณหญิงฯจะหาเสียงก็หาไป เพราะเมื่อถึงเวลาจริงๆก็ไม่ใช่ว่าจะมาแก้ได้ในวันสองวัน ต้องใช้เวลาเพราะวิกฤตโควิดเป็นเรื่องของมนุษยโลก ไม่ใช่เกิดที่ประเทศไทยเพียงแห่งเดียวเสียเมื่อไร ตนคิดว่าประชาชนคงไม่โง่หลงเชื่อแค่คำพูดสวยหรูของคุณหญิงอย่างแน่นอน เพราะประชาชนรู้ดีว่านักการเมืองคนไหนขี้โม้โอ้อวด และประชาชนรู้ว่านักการเมืองคนไหน ทุ่มเทตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อรักษาชีวิตและลมหายใจของพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยจากโควิด ดังเช่นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บ้าง 
 
ส่วนประเด็นที่คุณหญิงบอกว่าแยกทางจากคุณทักษิณ เด็ดขาด ไม่มียุทธการแตกแบงค์พันนั้น นายเสกสกล กล่าวว่า ตนไม่เชื่อและประชาชนก็คงไม่เชื่อเช่นเดียวกับตน เพราะคนที่เติบโตได้ดิบได้ดีจากนายทักษิณ จะมาทิ้งกันแบบนี้ง่ายดายเพราะคุณหญิงอยู่ด้วยกันยาวนาน กับนายทักษิณตั้งแต่สมัยพรรคพลังธรรมปี2538  ตนไม่เชื่อว่า คุณหญิงจะกล้าเนรคุณนายทักษิณคนที่ให้รางวัลคุณหญิงเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวงฯมาแล้ว เวลาลงพื้นหาเสียงเลือกตั้ง คุณหญิงจะบอกชาวบ้านว่าอย่างไร ชาวบ้านจึงจะเชื่อว่าคุณหญิงฯไม่เป็นคนเนรคุณต่อนายทักษิณ เหมือนกับที่ตนเคยโดนคนในพรรคเพื่อไทยกล่าวหามาแล้ว ใครที่ย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย ออกจากนายทักษิณต้องเป็นคนเนรคุณ เหมือนที่ตนลาออกจากพรรคเพื่อไทยก็โดนมาแล้วเช่นกัน คุณหญิงไม่กลัวโดนต่อว่าเหมือนตนอย่างนั้นหรือ 

นายเสกสกล  อัตถาวงศ์

ทั้งที่ตนมีจุดยืนไม่อยากเป็นสมุนโจร ไม่อยากเป็นเครื่องมือใครและไม่อยากให้ใครเหยียบหัวขึ้นไปเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและครอบครัว และไม่อยากอยู่ด้วยกับใครก็ตามที่มือไม่สะอาดจิตใจสกปรกที่คิดแต่มีอำนาจเพื่อธุรกิจครอบครัวเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม คนเช่นนี้ตนไม่ขอร่วมสังฆกรรมทางการเมือง  ตนจึงต้องขอแยกทางเดิน  ตนยังถูกกล่าวหาว่าเนรคุณ ยิ่งคุณหญิงฯใกล้ชิดสนิทสนม และยิ่งได้รับการไว้วางใจดูแลจากนายทักษิณและมอบตำแหน่งให้เป็นรมต.หลายกระทรวงฯ ไม่กลัวจะถูกตำหนิด่าทอต่อว่าหรือสาปแช่งจากคนในพรรคหรือสมาชิกเพื่อไทยว่าเป็นคนเนรคุณนายทักษิณหรือ  คุณหญิงอาจจะถูกโดนรุมถล่มโจมตีหนักยิ่งกว่าตนหลายเท่าหรือเปล่าตนไม่ทราบ คุณหญิงไม่กลัวข้อกล่าวหานี้หรือตนมีประสบการณ์มาแล้วจึงขอบอกกล่าวเอาไว้ก่อน
 
“ส่วนการที่คุณหญิงฯประกาศว่า พรรคไทยสร้างไทย เป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แล้วกล่าวหาว่าพล.อ.ประยุทธ์และบอกว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับขั้วพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นเผด็จการนั้น เป็นคำพูดแผ่นเสียงตกร่อง ฟังจนนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคพวกคุณหญิงดาหน้าด่าทอว่ารธน.ฉบับนี้เป็นเผด็จการ ถ้าคิดว่าเป็นเผด็จการจริงทำไมพรรคเพื่อไทยจึงส่งผู้สมัครลงสนามเลือกตั้งในปี62 คุณหญิงฯเองก็เสนอตัวเป็นนายกฯถ้าคิดว่าเป็นเผด็จการจริงจะลงมาร่วมมือในรธน.ฉบับนี้ทำไม อย่าทำตัวเกลียดปลาไหลกินน้ำแกงเลยดีกว่า ทำเป็นปากว่าตาขยิบ ประชาชนเขารู้ทันอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่หมดแล้ว

  พึงอย่าคิดว่าประชาชนโง่ ประชาชนก็รู้แก่ใจดีว่าพรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคนอมินี หรือสาขาพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน  และตนอยากให้ถึงวันเลือกตั้งเร็วๆ พรรคไทยสร้างไทย จะได้ส.ส.กี่คนถ้าผู้ใหญ่ของพรรคฯยังเล่นการเมือง แบบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นเช่นนี้ สุดท้ายพรรคฯใหม่พรรคนี้อาจจะไม่ได้ส.ส.เข้าสภาเลย แม้แต่คนเดียว ถ้าประธานพรรคยังใช้วิธีพ่นพิษน้ำลายใส่คนอื่นรายวัน 

"คุณหญิงอย่าได้ให้ลิ่วล้อออกมาตอบโต้คนอย่างแรมโบ้ เพราะที่ผ่านมานายกฯไม่เคยพูดใส่ร้ายใครก่อนและไม่คิดตอบโต้ใคร มีแต่คุณหญิงที่กัดนายกฯไม่เคยปล่อยเอง คุณหญิงเริ่มก่อนทุกครั้ง ทั้งที่นายกฯไม่เคยตำหนิหรือต่อว่าอะไรคุณหญิงเลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่คุณหญิงและลิ่วล้อด่าว่านายกฯฝ่ายเดียว ตนยืนยันว่าถ้าคุณหญิงไม่ยอมโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่ยอมหยุดใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ ตนก็จะไม่ยอมหยุดเช่นกัน ตนจะไม่ยอมให้คุณหญิงและลิ่วล้อหรือสมุนของคุณหญิงออกมาด่าทอใส่ร้ายป้ายสีนายกฯฝ่ายเดียว ตนคงยอมไม่ได้เด็ดขาด นายกฯไม่มีเวลามาเล่นการเมือง จะไม่เสียเวลามาทะเลาะกับใคร มีแต่เวลาทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนกับประชาชนเท่านั้น " นายเสกสกล กล่าว