ตู่-เต้น โผล่เขย่าบัลลังก์ ‘บิ๊กตู่’

02 เม.ย. 2564 | 05:30 น.
1.4 k

ไม่รู้ไปได้ “ยาดี” อะไรมา จู่ๆ “ตู่-นายจตุพร พรหมพันธุ์” ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ออกมาแสดงท่าทีขับไล่ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ด้วยการปลุกแนวร่วม นัดแนะให้มาร่วมตัวกันในวันอาทิตย์ที่ 4 เม.ย. 2564 นี้ ที่อนุสรณ์วีรชนพฤษภา 35 เพื่อหาทางขับไล่รัฐบาล

4 เม.ย.นัดวางแผนโค่น"บิ๊กตู่"

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2564 ในเวทีเสวนา “สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ซึ่งจัดโดยคณะญาติวีรชนพฤษภาทมิฬ และ 30 องค์กรประชาธิปไตย 

“ส่วนตัวมองว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มหมวดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จะไม่ถูกควํ่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการหาออกหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้รัฐธรรมนูญอย่างคลุมเครือ ด้วยการขอให้ศาลวินิจฉัยเนื้อหาอีกครั้ง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทำ อย่างไรก็ดี มองว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นภัยต่อประเทศ” จตุพร ระบุ 

หลังสงกรานต์หากทุกคนเห็นพ้อง ต้องมาจัดการกับ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อน เพื่อให้มีรัฐธรรมนูญประชาชน เหมือนกับยุคการขับไล่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร แล้วได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งขอให้พวกเราระดมความคิดเห็นด้วย

ประธาน นปช. กล่าวว่า วันที่ 4 เม.ย.2564 เวลา 16.00 น. ขอนัดที่อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35 มีกิจกรรมพูดคุยแลกเปลี่ยนจัดองค์กร โดยต้องเดินสายคุยกับผู้เห็นต่างกันในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ได้ความสามัคคีประชาชน จัดการกับ พล.อ.ประยุทธ์ และหลังจากนั้นจะมีแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น 

 

ตู่-เต้น โผล่เขย่าบัลลังก์ ‘บิ๊กตู่’

 

ทั้งนี้ หากสามารถให้ 3 พรรคร่วมรัฐบาล คือ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และ ชาติไทยพัฒนา ถอนตัว เราไม่ต้องลงถนน แต่หากหมดหนทางต้องขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์

“ศึกนี้อีกยาวนาน เมื่อพร้อมเราจะ รบ รู้ว่าพฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะไม่เหมือนเผด็จการที่เราเคยเห็น” นายจตุพร ระบุ

ต่อมาวันที่  29 มี.ค. 2564 ตู่-จตุพร ยังเฟชบุ๊กไลฟ์ ระบุว่า “วันที่ 4 เม.ย.นี้ หวังให้เราเป็นจุดเริ่มต้น แล้วระดมความเห็นเข้ามาอีก เราไม่ต้องการมัดมือชก ในการระดมความคิดเห็น แล้วค่อยเดินไปจนถึงจุดที่แข็งแรง เป็นฉันทานุมัติของประชาชนจึงสำแดงพลังกัน” 

 

“เต้น”เคียงข้างม็อบเด็ก

เต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ก็เป็นอีกคนที่ออกมาแสดงท่าที่ไม่เอา “รัฐบาลประยุทธ์” โดยวันที่ 30 มี.ค.2564 ณ ที่ทำการ ยูดีดีนิวส์ ห้างเอเวอรี่มอลล์ จ.นนทบุรี เขาออกมาแถลงข่าวหลังคืนสู่อิสรภาพ จากที่ถูกศาลฎีกาสั่งจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน คดีการชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ และต่อมา ณัฐวุฒิ ได้รับการพักโทษกรณีพิเศษ  

นายณัฐวุฒิกล่าวตอนหนึ่งว่า ไม่เคยลืมจุดยืนที่ได้ประกาศไปในวันแรก คือ การต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตย ต้องการเห็นบ้านเมืองเป็นของประชาชน อำนาจการปกครองเป็นของประชาชน คนเราต้องเท่าเทียมกัน 

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษานั้น ตนเคารพนักศึกษาพวกเขาเหล่านี้ในฐานะนักต่อสู้ ซึ่งพวกเขาต้องแลกมาด้วยชีวิต อิสรภาพ และต้องเผขิญกับความท้าทายที่ต้องแบกรับไว้อีกมาก และขอยํ้าจุดยืนของตนว่า ขอยืนยันเคียงข้างกับนิสิต นักศึกษา ประชาชน ไม่มีเปลี่ยนแปลง พวกเราในฐานะคนเสื้อแดงที่ต่อสู้มานับ 10 ปี และทุกวันนี้ก็ยังต่อสู้อยู่ 

นายณัฐวุฒิ ระบุด้วยว่า อย่าดูถูกดูแคลนคนรุ่นใหม่เหล่านี้ ว่าถูกใครล้างสมองมา เพราะตนเชื่อว่าไม่มีใครสามารถไปล้าง สมอง จิตวิญญานของคนหนุ่มสาวเหล่านี้ไปได้ ควรจะยอมรับความจริงในความเปบี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้บ้านเมืองเสียหายมากไปกว่านี้ 

“ผมขอประกาศจุดยืนตรงนี้ว่า ในฐานะมนุษย์ด้วยกัน ผมทิ้งพวกเขาไม่ได้ และทุกวันนี้ผมก็ยังคงเป็นคนเสื้อแดงอยู่ ไม่เคยรู้สึกเสียใจใดๆ ที่ได้ต่อสู้ในอุดมการณ์นี้มานับ 10 ปี ผมมีโลกเพียงใบเดียวคือการต่อต้านเผด็จการ”

 

 

ค้านไล่“รัฐบาลบิ๊กตู่”

นายประมวล เอมเปีย อดีตส.ส.ชลบุรี  หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน คัดค้านกลุ่มคนเสื้อ แดงที่จะออกมาชุมนุมขับไล่พล.อ.ประยุทธ์  

แม้ว่าตนจะไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หลายอย่าง แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะใช้วิธีการดังกล่าว เนื่องจากในอดีตกลุ่มนปช.ได้ชุมนุมเผาบ้านเผาเมือง เมื่อปี 2553 สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชนจำนวนมาก จึงไม่เห็นด้วยที่คนกลุ่มนี้จะมาทำแบบนี้อีก  

“วันนี้เรามีระบบรัฐสภา มีส.ส.มาจากการเลือกตั้ง แม้ว่ากติกาจะเอื้อต่อการสืบทอดอำนาจ แต่ทุกคนทุกพรรคก็เต็มใจที่จะลงเล่นตามกติกาที่เขียนเอาไว้ ก็หวังว่า จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ผมจึงเชื่อมั่นว่าระบบรัฐสภาที่มาจากตัวแทนประชาชน จะสามารถแก้ปัญหาและหาทางออกของชาติได้”

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,667 หน้า 10 วันที่ 4 - 7 เมษายน 2564