สงครามตัวแทน ‘พปชร.-ปชป.’ ชิงนายกอบจ.สงขลา

25 พ.ย. 2563 | 11:55 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2563 | 18:59 น.

สงครามตัวแทน ‘พปชร.-ปชป.’ ชิงนายกอบจ.สงขลา : คอลัมน์เจาะสนาม เลือกตั้ง อบจ. โดย...ทีมข่าวการเมือง ​​​​​​​หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,630 หน้า 10 วันที่ 26 - 28 พฤศจิกายน 2563

สนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา วันที่ 20 ธ.ค. 2563 ถือเป็นสนามที่การแข่งขันดุเดือดมากที่สุดสนามหนึ่ง เนื่องจากเป็นการแข่งขันที่มีฐานเสียงการเมืองของ 2 พรรคใหญ่ “พลังประชารัฐ” กับ “ประชาธิปัตย์”

 

ระหว่างผู้สมัครหมายเลข 2 พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ในนามทีมสงขลาประชารัฐ ถึงแม้ไม่ระบุตรงๆ แต่เป็นที่ทราบกันว่าฐานเสียงจัดตั้งมาจากฐานเสียงของ 4 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.สงขลา เป็นต้นทุน

 

กับ ไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 3 ในนามทีมพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็จะใช้ฐานเสียงเดียวกันกับส.ส.และรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ จ.สงขลา เป็นต้นทุนเช่นกัน บวบกับฐานเสียงอดีต ส.อบจ.เก่าที่ยังยืนข้าง

 

เดิมพันครั้งนี้จึงเป็นเดิมพันที่ค่อนข้างสูง เพราะเป็นเหมือน “สงครามตัวแทน” ของพรรคการเมือง ที่ต่างฝ่ายต่างประกาศปิดประตูแพ้ แต่การแข่งขันแน่นอนว่าผู้ชนะย่อมแค่ 1 เดียวเท่านั้น  

 

ฉะนั้นนับจากนี้ไปก่อนถึงวันเลือกตั้ง จึงเป็นงานหนักของ ทีมงานทั้งสองฝ่ายที่จะต้องหาจุดขาย  จุดแข็งต่างๆ ที่มีอยู่ มานำเสนอให้ประชาชนใช้ประกอบการตัดสินใจได้ดีกว่ากัน

 

 

สงครามตัวแทน ‘พปชร.-ปชป.’ ชิงนายกอบจ.สงขลา

 

 

นอกเหนือต้นทุนจากฐานเสียงส.ส.และรัฐมนตรีที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีกันแล้ว ต้นทุนส่วนตัวก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง พ.อ.สุชาติ จะได้เปรียบประสบการณ์ทางการเมือง ในฐานะอดีตส.ส.และเวียนว่ายใกล้ชิดกับการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่   

 

ในขณะที่ ไพเจน แม้จะเป็นมือใหม่ไม่เคยมีผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมาก็ตาม แต่การที่เคยดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมชลประทานมาก่อน บวกกับความสดที่ไม่เคยผ่านสนามเลือกตั้งใดๆ มาก่อน 

 

 

ส่วนนโยบายที่ใช้หาเสียงนั้น พ.อ.สุชาติ ประกาศมาตั้งแต่ประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง คือการจัดทำงบประมาณของอบจ.สงขลา ที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อให้งบประมาณปีละ 1,080 ล้านบาท ทั่วถึงมีประสิทธิภาพ

 

ในขณะที่ ไพเจน ชู 10 นโยบาย พลิกโฉมสงขลา “รวมพลังสร้างสุข” พัฒนาอาชีพ ก้าวหน้า สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจยุคดิจิทัล พัฒนาการผลิต และการตลาดสินค้าชุมชน เรียนรู้อาชีพ ใหม่ ต่อยอดอาชีพเดิม ทำอาชีพเสริม  

 

ทางด้านกองหนุนก็ต้องบอกว่า ทั้งสองฝ่ายจัดหนักจัดเต็มทั้งพรรค ส.ส. รมต. และที่ขาดไม่ได้ก็คือ กระสุนดินดำ อำนาจ บารมี มาพร้อม อยู่ที่ใครว่าจะเลือกใช้อาวุธแบบไหน สถานการณ์ใด

 

ที่ขาดไม่ได้สำหรับการเลือกตั้งในทุกระดับก็คือการดิสเครดิต หรือขยายผลจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม การเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา ครั้งนี้ ก็มีให้เห็นเช่นกัน

 

 

โดยฝั่งของ พ.อ.สุชาติ ขึ้นป้าย “มา... เพื่อพัฒนา ไม่ได้ มา... เพื่อหาผลประโยชน์” หรือ “อบจ.สีขาวบริสุทธิ์ หยุดสีเทา” ทิ้งเป็นปริศนาธรรมให้ประชาชนคิดต่อ

 

ในขณะที่ทางฝั่ง ไพเจน แม้จะไม่ประกาศต่อสาธารณะชนตรงๆ ชัดๆ แต่การลงพื้นที่ของทีมงานหัวคะแนนยังยํ้าเสมอต้น เสมอปลายว่า “คนสงขลา ต้องเลือกคนสงขลา” 

 

แต่ทั้งหมดคนที่จะตัดสินว่าใครจะได้เข้าไปทำหน้าที่ “นายกอบจ.สงขลา” และนำนโยบายที่หาเสียงไปใช้ได้จริง คือประชาชนเจ้าของ 1 สิทธิ 1 เสียง จะเป็นคนชี้ชะตาและกำหนดอนาคตของเขาเองในวันเลือกตั้ง