น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมแบบสองมาตรฐาน และกล่าวหาว่ากลุ่มเสื้อเหลืองเป็นม็อบมีเส้นว่า เข้าใจว่า นายรังสิมันต์ เห็นพลังแห่งความจงรักภักดีของประชาชนที่มาร่วมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เมื่อวันที่1 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว อาจรู้สึกเสียขวัญ ว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามผลักดันให้มีการปฏิรูปสถาบันนั้น จะพ่ายแพ้
“ด้วยพลังเงียบไม่ว่าจะสวมเสื้อสีเหลือง สีชมพู เสื้อหลากสี ต่างออกมาเชิดชูสถาบันเป็นจำนวนมหาศาล จึงหาช่องกล่าวโทษรัฐบาล และฝ่ายความมั่นคงว่าเลือกปฏิบัติเพื่อแก้เกี้ยว ทั้งที่ นายรังสิมันต์ ก็รู้อยู่แก่ใจว่า การมาร่วมรับเสด็จของประชาชนนั้น ไม่เข้าข่ายการชุมนุมตามพ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ แต่เลือกที่จะบิดเบือนให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด”
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า หาก นายรังสิมันต์ มีความหวังดีต่อชาติบ้านเมืองและน้องๆ เยาวชนจริง โดยเฉพาะแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีคดีติดตัว นายรังสิมันต์ ควรจะแนะนำให้ลดข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ให้เหลือเพียงข้อเดียว คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และต้องไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 1-2 หมวดพระมหากษัตริย์ พร้อมกับหยุดคุกคามสถาบันด้วยความก้าวร้าว เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ที่สำคัญคือ พรรคก้าวไกล ควรแนะนำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าร่วมในคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ อันเป็นการแก้ไขปัญหาแบบอารยะดีกว่า การปฏิเสธที่จะเข้าร่วมซึ่งไม่มีฝ่ายใดได้ประโยชน์
‘การปฏิเสธการเข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ อาจเป็นการปฏิเสธโอกาสสุดท้าย ในการผลักดันข้อเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจผลักประเทศชาติไปสู้เดดล็อกทางการเมืองในอนาคต สุดท้ายกลุ่มผู้ชุมนุมอาจต้องกลับบ้านมือเปล่า การเคลื่อนไหว 2-3 เดือนที่ผ่านมาต้องเสียของ’ น.ส.ทิพานัน ระบุ