"วิลาศ" ลั่น ต้องไม่มีการจ่ายค่าเร่งรัดก่อสร้างรัฐสภา 215 ล้าน

13 ก.ค. 2563 | 12:54 น.

“วิลาศ” ยังกัดไม่ปล่อย เตรียมเอาผิดคน 4 กลุ่ม ยัน ต้องไม่มีการจ่ายค่าเร่งรัดก่อสร้างรัฐสภา 215 ล้านบาท

กรณีการก่อสร้างอาคารรัฐสภาย่านเกียกกายมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทที่ยังมีปัญหาคาราคาซังอยู่จนถึงวันนี้นั้น นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทำงานเกาะติดเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง แถลงข่าวกรณีที่มีการเรียกค่าเร่งรัดการก่อสร้างอาคารรัฐสภาสูงถึง 215 ล้านบาทว่า จากการที่สภามีการตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการก่อสร้างอาคารรัฐสภา โดยมีการประชุมตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา จนถึงต้นเดือนมีนาคมมีวาระเชิญบริษัทผู้รับจ้างเข้าชี้แจงเพื่อเป็นการให้ข้อมูลรายละเอียด ปัญหา อุปสรรคที่เกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภา จนกระทั่งบริษัทผู้รับจ้าง ขอเบิกเงินค่าเร่งรัดการก่อสร้าง ประมาณ 70 ล้านบาท

 

“มีข่าวว่าทางบริษัททำหนังสือมาขอเบิกเงินค่าเร่งรัดการก่อสร้าง ทั้งหมดประมาณ 70 ล้านบาทจริงหรือไม่ เขาก็ตอบผมบอกไม่มีครับ ขณะที่เขาตอบผม ในที่ประชุม มีรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะที่เป็นกรรมาธิการอยู่ ผมก็ได้ถามย้ำว่าเข้าใจคำถามของผมหรือเปล่า ค่าเร่งรัดคือหมายความว่า สภาต้องการใช้พื้นที่ห้องประชุมจันทรา ห้องประชุมสุริยัน แต่ให้ท่านไปเร่งรัดการก่อสร้างนี้ แล้วท่านมาเบิกเงินนี้จริงมั้ย เขาก็บอกว่าไม่มีครับ และท่านยังพูดต่อว่าบริษัทไม่เบิกเงินที่ผิดกฎหมาย ผมก็จบ แต่นี้มันไม่อย่างนั้น พอจบไป รุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่สภา เขาก็ยืนยันนะว่ามีจริง แล้วเขาจะหาเอกสารมาให้ หลังจากนั้นไม่นาน ไม่เกินอาทิตย์ เขาก็เอาเอกสารมาให้ผม เป็นเอกสารลงวันที่ 10 ธ.ค. 2562 มีการขอเบิกเงินค่าเร่งรัดการก่อสร้างอาคารรัฐสภาซีกห้องประชุมในส่วนของ ส.ว. และส่วนประกอบบางส่วน เป็นเงินทั้งหมด 73,544,810.84 บาท”

 

หลังจากนั้นตนได้ติดตามหาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้หนังสือ ครม. อนุมัติเงินค่าเร่งรัดการก่อสร้างเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2561 ทั้งส่วนของ ส.ส. และ ส.ว. โดยอนุมัติไป 273.5 ล้านบาท และเมื่อไปดูถึงเหตุที่ ครม. อนุมัติเงินดังกล่าว เพราะมีการอ้างถึงความจำเป็นเรื่องการขอคืนพื้นที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“วิลาศ”กัดไม่ปล่อย!สอบสร้างสภาใหม่

รายงานสอบสร้างสภาใหม่ส่อไม่สมบูรณ์

แต่ไม่แจ้งต่อ ครม.ว่า ในสัญญาข้อ 4 วรรค 3 ระบุสภาสามารถให้ผู้รับจ้างก่อสร้างตรงไหนก่อนหลังได้ และสภามีสิทธิ์เข้าใช้พื้นที่ถ้าส่วนก่อสร้างนั้นสำเร็จ สามารถใช้งานได้ตามข้อ 34 ทำให้ ครม. อนุมัติเงินก้อนดังกล่าวไป

หลังจากเงินก้อนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจาก ครม. ทำให้บริษัทผู้รับจ้างมีการส่งเอกสารมายังสภาโดยเดือนที่ผ่านมา มีการส่งเอกสารลงวันที่ 10 เม.ย. 2563 เรื่อง บริษัทผู้รับจ้างขอเก็บเงินค่าเร่งรัดการก่อสร้าง 215 ล้านเศษ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีผู้คัดค้านโดยส่งหนังสือถึงประธานรัฐสภาแล้ว ทั้งอดีต ส.ส. อดีต ส.ว. รวมถึงอดีต สนช. ได้ร่วมกันทำหนังสือคัดค้านเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยประเด็นทั้งหมดที่รวบรวมมาประกอบด้วย 6 ประเด็น ดังนี้ 

 

1. ข้อตกลงระหว่างสภา และบริษัทผู้รับจ้าง ถึงกำหนดเสร็จของห้องประชุมทั้ง 2 ห้อง มีกำหนดเสร็จล่าช้ากว่ากำหนด แต่กลับมีการมาเสนอขอเบิกเงินค่าเร่งรัดการก่อสร้าง

 

2. กรณีที่ผู้ว่าจ้างต้องการก่อสร้างในพื้นที่ที่ต้องการใช้งานก่อน บริษัทผู้รับจ้างไม่ควรเรียกรับเงินเพิ่ม เนื่องจากไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบก่อสร้าง เพียงแต่เป็นการจัดลำดับพื้นที่ก่อสร้างก่อนเท่านั้น

 

3. ในสัญญาข้อ 4 วรรค 3 ระบุชัดว่า ผู้รับจ้างสามารถทำงานงวดใดก่อนก็ได้ หากไม่กระทบต่อโครงสร้างและความมั่นคงแข็งแรง หรือขั้นตอนการดำเนินการทางวิชาช่าง ทั้งนี้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์ที่จะกำหนดให้ผู้รับจ้างทำงานใดก่อนหลัง ดังนั้นสภามีสิทธิ์ที่จะให้ทำอันไหนก่อนหลังได้ แต่เหตุใดสภาต้องจ่ายเงิน

4. สัญญาข้อ 34 ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์เข้าครอบครอง หรือใช้ประโยชน์พื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือหลายส่วนที่ผู้รับจ้างได้ดำเนินการแล้วเสร็จเป็นส่วนใหญ่ ผู้ว่าจ้างจะใช้งานอาคารก่อนที่ผู้รับจ้างจะส่งมอบงานทั้งหมดตามสัญญา ในสัญญาข้อนี้ จึงทำให้สภาสามารถเข้าใช้ห้องประชุมจันทราได้โดยที่สภาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่ม และผู้รับจ้างไม่สามารถเรียกเงินเพิ่มได้

 

5. ไม่มีความมั่นใจต่อบริษัทที่ปรึกษา ว่าเป็นบริษัทที่ปรึกษาของสภา หรือที่ปรึกษาของบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง

 

6. ไม่มีการก่อสร้างที่ไหนเสนอให้มีการแก้ไขสัญญา หลังจากก่อสร้างเสร็จ เพราะการแก้ไขสัญญาการก่อสร้างมักจะทำก่อนเริ่มงานก่อสร้าง

 

“หากมีการจ่ายเงิน มีการแก้ไขสัญญาจริง เตรียมจะร้องทุกแห่ง ต้องหาคนติดคุกให้ได้ แล้วบอกเลยนะครับ คนที่จะต้องรับผิดชอบโดยตรง คนแรกคือเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพราะถ้ามีการแก้ไขคนนี้ต้องเป็นคนเซ็น คนที่ 2 คนที่เสนอคณะกรรมการตรวจการจ้าง คนที่ 3 บริษัทที่ปรึกษาโครงการก่อสร้าง คนที่ 4 บริษัทผู้ควบคุมงาน” นายวิลาศ ระบุทิ้งท้าย

นายวิลาศ จันทรพิทักษ์