ที่ดินบาป ‘อัลไพน์’ ลูกบ้านผวา! ถูกยึดโฉนดคืน 80 % ติดหนี้แบงก์

600 ลูกบ้านที่ดินอัลไพน์ผวาถูกยึดโฉนดคืน หลังศาลชี้เป็นธรณีสงฆ์ เล็งร้องศาลปกครอง-สคบ.-กรมคุ้มครองสิทธิ์ขอความเป็นธรรม เผย 80% กู้แบงก์ ยังผ่อนชำระไม่หมด

หลัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ส่งสัญญาณให้กรมที่ดินเดินตามกฎหมายที่ถูกต้อง คือ “อัลไพน์” คือที่ธรณีสงฆ์ ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมายํ้าว่า เอาผิดเฉพาะผู้กระทำผิดแต่ลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบต้องมีมาตรการเยียวยา

ล่าสุด นางสาวอรุณี ยิ่งเรียงเรือง ลูกบ้านโครงการราชธานี คลองหลวง และในฐานะผู้ดูแลช่วยบริหารการขายให้กับ บริษัท ราชธานี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ากระแสข่าวการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินอัลไพน์ดังกล่าวส่งผล กระทบอย่างมากต่อลูกบ้านที่อยู่อาศัยในโครงการ เพราะนอกจากตัวสนามกอล์ฟของบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับฯ ของคนในตระกูลชินวัตรแล้ว ยังมีส่วนที่เป็นโครงการบ้านจัดสรร ของบริษัท ราชธานีพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ของ น.พ.บุญ วนาสินและนายจอห์น วนาสิน บุตรชาย เป็นผู้บริหารโครงการที่ได้รับผล กระทบด้วย

นางสาวอรุณี เล่าว่า ลูกบ้านในโครงการไม่ได้เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีชื่อเสียง ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ข้าราชการเกษียณ พนักงานบริษัททั่วไป ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง และ 80% กู้สถาบันการเงิน ยังผ่อนชำระไม่หมด ซึ่งส่วนใหญ่จะกู้ระยะยาว 30 ปี หลายรายมีการกู้ต่อเนื่อง มีการรีไฟแนนซ์ ตลอดจนการซื้อขายเปลี่ยนมือบ้านในโครงการ ซึ่งมีหลายแบงก์ที่ปล่อยกู้ เช่น แบงก์อิสลาม กรุงเทพ ไทยพาณิชย์ ทีเอ็มบี เป็นต้น และโดยส่วนตัวยังผ่อนชำระเหลือค้างกับธนาคารอีก 800,000 บาท รวมถึงลูกบ้านรายอื่นๆ ที่ยังมีภาระผ่อนกับแบงก์จำนวนมาก ลูกบ้านเริ่มกังวล

[caption id="attachment_206050" align="aligncenter" width="374"] พล.ต.ฉัตรชัย ลักษณา ประธานคณะกรรมการนิติบุคคล[/caption]

สำหรับโครงการประกอบด้วยบ้านและที่ดินริมสนามกอล์ฟขนาดเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ กว่า 200 หน่วย ขณะนี้ยังมีที่ดินรอขาย อีกกว่า 10 แปลง ฝั่งโครงการราชธานีคลองหลวง จำนวน 312 หน่วยขนาดเนื้อที่ 80 ตารางวา ซึ่งราคาบ้านเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 ล้านบาท ขณะนี้ยังเหลือขาย 4-5 แปลง

นางอรุณี กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน น.พ.บุญ ได้เปิดขายโครงการเพิ่ม โดยใช้ชื่อว่า บริษัท เอสเสทออชาด จำกัด ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 30 แปลง ขนาด 80 ตารางวา ราคา 3.79 ล้านบาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นที่ดินติดกันกับโครงการราชธานีคลองหลวง แต่ปรากฏว่าส่งผลกระทบให้การซื้อขายชะงักลง สร้างความเดือดร้อนอย่างมากกับโครงการของบริษัท ราชธานีพร็อพเพอร์ตี้ฯ

เช่นเดียวกับนายฐานุพงษ์ พรหมสวัสดิ์ ลูกบ้านที่ซื้อบ้านในโครงการราชธานี กล่าวว่า เพิ่งซื้อบ้านในโครงการดังกล่าว เมื่อปี 2556 และอยู่ระหว่างผ่อนแบงก์ ยอมรับว่ากังวล เพราะไม่ทราบมาก่อนว่า เป็นที่ธรณีสงฆ์ และเมื่อสอบถามไปที่สำนักงานขายโครงการว่า สาเหตุใดจึงไม่แจ้งให้ผู้ซื้อทราบว่าที่ดินมีประวัติเป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งพนักงานขายก็ให้คำตอบว่า ที่ดินมีโฉนดออกโดยกรมที่ดินถือว่าถูกต้อง

อย่างไรก็ดี หากมีการ เพิกถอนโฉนดจะฟ้องกรมที่ดิน เพราะก่อนหน้านี้แบ่งแยกโฉนดออกมาได้อย่างไร และเมื่อนำไปยื่นกู้แบงก์ แบงก์ก็ปล่อยสินเชื่อ ซึ่งกระทบเป็นทอดๆ ขณะนี้ 600 ลูกบ้านเดือดร้อนหนัก เพราะหลายรายผ่อนมา 20 ปี ยังไม่หมดหนี้ บางรายผ่อนแบงก์หมดแล้วโอนกรรมสิทธิ์มาได้ แต่จะทำอย่างไรจะถูกยึดโฉนดคืนรัฐหรือไม่

ด้านพล.ต.ฉัตรชัย ลักษณา ประธานคณะกรรมการนิติบุคคล หมู่บ้านจัดสรรราชธานีคลอง หลวง กล่าวว่า วันที่ 24 กันยายนนี้ จะนัดประชุมวิสามัญครั้งที่ 3/2560 กับลูกบ้านเฉพาะจำนวน 312 หลังคาเรือน เพื่อหารือเรื่อง อัลไพน์ ขณะเดียวกันนิติบุคคลเตรียมทำหนังสือขอความเป็นธรรมยื่นไปที่ศาลปกครอง กรมคุ้มครองสิทธิ์ กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่ง เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะลูกบ้านเป็นผู้บริสุทธิ์ 600 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน

นอกจากนี้นิติบุคคลยังไม่นิ่งนอนใจ ยังขอความชัดเจนไป ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาอำเภอคลองหลวง เพื่อถามถึงสถานะของที่ดินในโครงการว่าเป็นที่ธรณี สงฆ์หรือไม่ เจ้าพนักงานยังยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะคำพิพากษาเป็นเพียงศาลชั้นต้น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐอดีตรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย เตรียมอุทธรณ์สู้คดี ดังนั้น การทำนิติกรรมยังถือว่าดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องส่วนกรณีของแบงก์บางแห่งที่ลูกบ้านมีหนังสือสอบถามไปว่า ลูกบ้านที่ผ่อนชำระจะต้องดำเนินการอย่างไร แบงก์รายนั้นระบุว่าต้องผ่อนชำระปกติจนกว่าจะมีคำสั่งจากทางราชการออกมาว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์

ทั้งนี้พล.ต.ฉัตรชัย ยืนยันว่า ที่ดินเป็นที่ธรณีสงฆ์แน่นอน เพราะฟังจากศาลพิพากษานายยงยุทธแล้ว คงจะเป็นอย่างนั้นแม้จะมีการอุทธรณ์ต่อ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,295 วันที่ 10 - 13 กันยายน พ.ศ. 2560