นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์อุทกภัยเริ่มเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้รายงานสายทางที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถสัญจรผ่านได้ให้ประชาชนทราบมาเป็นระยะ
ขณะนี้พบทางที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนลดลง จึงได้สั่งการไปยังสำนักงานทางหลวงชนบทและแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกสำรวจสายทางที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสายทางที่ถูกน้ำกัดเซาะผิวทางและไหล่ทาง
นายมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันได้เร่งดำเนินการซ่อมแซมในเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถกลับมาสัญจรได้โดยเร็ว ซึ่งหลังการลงสำรวจดังกล่าวพบสายทางหลวงชนบทได้รับผลกระทบ จำนวน 2 สายทางในจังหวัดปัตตานี ได้แก่
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทปัตตานี จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องจักร ฯลฯ ลงซ่อมแซมเป็นการชั่วคราว ซึ่งขณะนี้สามารถเปิดใช้สัญจรได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับสายทางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมปิดทับเส้นในปัจจุบัน (วันที่ 7 ธ.ค. 67 เวลา 10.00 น.) พบในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี และพัทลุง จำนวน 5 สายทาง ดังนี้
1. จังหวัดยะลา จำนวน 3 สายทาง
2. จังหวัดปัตตานี จำนวน 1 สายทาง
3. จังหวัดพัทลุง จำนวน 1 สายทาง
อย่างไรก็ตาม ทช. ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนติดตามระดับน้ำในพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมทั่วทั้งภูมิภาค และเฝ้าระวังถนนในโครงข่ายทางหลวงชนบทสายทางอื่นควบคู่กันไปด้วย ตลอดจนได้เตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ สะพานเบลีย์ ยานพาหนะในการรับส่งผู้ประสบภัยในกรณีน้ำท่วมสูงในสายทางให้มีความพร้อมอยู่เสมอ
นอกจากนี้เมื่อเกิดเหตุการณ์จะได้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในทันที พร้อมทั้งได้มีการจัดเตรียมสิ่งของอุปโภค บริโภคเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนเป็นการเบื้องต้น