ไทยมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development) หรือ OECD โดยเป้าหมายหลักของการเข้าร่วมครั้งนี้คือเพื่อยกระดับมาตรฐานเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เทียบเท่ากับประเทศสมาชิก OECD อื่นๆ ทั้งนี้ ไทยยังคาดหวังว่าการเข้าร่วม OECD จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก และพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้มีความยั่งยืน
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แสดงเจตนารมณ์ในการผลักดันให้ประเทศไทยได้เป็นส่วนหนึ่งของ OECD อย่างเต็มตัว ย้ำว่าการเข้าร่วมของไทยเป็นก้าวที่สำคัญเพราะจะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการบริหารจัดการประเทศ การปฏิรูปโครงสร้างและกฎระเบียบ รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
นายมาธิอัส คอร์มันน์ เลขาธิการใหญ่แห่งองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD Secretary-General) ได้กล่าวถึงการเข้าเป็นสมาชิกของไทยและแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ของ OECD ต่อภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า การเข้าร่วม OECD ของไทยจะเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพและความยั่งยืนให้กับระบบเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าการเข้าร่วมนี้จะช่วยให้ไทยมีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจเชิงลึก ทั้งการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และชี้ให้เห็นถึงบทบาทของไทยในเวทีโลก โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค และการเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล OECD เล็งเห็นว่าไทยจะมีส่วนร่วมสำคัญในด้านนโยบายระหว่างประเทศ และจะช่วยให้เวที OECD เป็นเวทีที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคมากยิ่งขึ้น
องค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม การค้า และความยั่งยืน ปัจจุบัน OECD มีประเทศสมาชิก 38 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจและการบริหารจัดการที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดย OECD ยังทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรฐานสากลในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเศรษฐกิจ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม
การเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนและเข้มงวด เริ่มต้นจากการยื่นจดหมายแสดงเจตจำนงที่ไทยได้ส่งไปยังเลขาธิการ OECD ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกในการแสดงความพร้อมของประเทศ จากนั้นเลขาธิการจะตรวจสอบความพร้อมของไทยในด้านต่างๆ ก่อนที่สภา OECD จะพิจารณาอย่างเป็นทางการว่าจะอนุมัติการเปิดการเจรจากับไทยหรือไม่ หากได้รับการอนุมัติแล้ว ไทยจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาอย่างเต็มรูปแบบ โดยต้องปรับปรุงกฎหมายและนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD
ณ ตอนนี้ ไทยอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการจัดทำเอกสารเพื่อประเมินตนเองเกี่ยวกับกฎหมาย นโยบาย และการดำเนินงานที่เป็นอยู่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD ไทยได้เริ่มต้นการประสานงานกับคณะกรรมการด้านเทคนิคของ OECD ทั้ง 26 คณะ โดยคณะกรรมการเหล่านี้จะเข้ามาตรวจสอบเชิงลึกในหลายด้าน และจะเป็นผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมาย นโยบาย และโครงสร้างต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร
เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลไทยได้จัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีสองคนที่มีหน้าที่สนับสนุนการประสานงานภายใน โดยคณะกรรมการนี้จะกำกับดูแลการดำเนินงานและการประสานงานกับ OECD รวมถึงตั้งคณะอนุกรรมการย่อย ได้แก่ คณะอนุกรรมการการดำเนินงานภายในประเทศ คณะอนุกรรมการด้านการมีส่วนร่วมของ OECD และคณะอนุกรรมการด้านการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ไทยยังได้วางโครงสร้างเพื่อให้มีการตรวจสอบภายในในทุกขั้นตอนของกระบวนการ
นอกจากภาครัฐแล้ว การเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ยังต้องการการสนับสนุนจากภาคเอกชนอย่างเข้มแข็ง โดยรัฐบาลได้เริ่มต้นประสานงานกับหอการค้า สภาอุตสาหกรรมไทย และธนาคารต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านภาคธุรกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนจะช่วยให้การปฏิบัติตามมาตรฐาน OECD มีความครอบคลุมและครบถ้วน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทยให้มีความมั่นคงและยั่งยืน
ในการประเมินเบื้องต้น คาดว่าไทยจะใช้เวลาประมาณ 5 ปีในการผ่านกระบวนการทั้งหมดสู่การเป็นสมาชิก OECD อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่การยื่นขอเข้าร่วมจนถึงการเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับปรุงกฎหมาย นโยบาย และการดำเนินงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ OECD แต่หากสามารถดำเนินการได้สำเร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด การเข้าร่วม OECD จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการพัฒนาประเทศ
การเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ของไทยถือเป็นการเดินทางที่ท้าทาย แต่ก็เป็นโอกาสที่ไทยจะได้ยกระดับการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ไทยได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับโครงสร้าง กฎหมาย และการสร้างกลไกการประสานงานเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีความสมบูรณ์ เมื่อประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของ OECD ได้ทั้งหมดแล้ว ประเทศจะได้รับการยอมรับในฐานะสมาชิกเต็มรูปแบบ และสามารถใช้มาตรฐานนี้ในการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนในเวทีโลก