กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศล่วงหน้า วันที่ 14 – 18 ก.พ. 67 ประเทศไทยตอนบน มีอุณหภูมิสูงขึ้น 3 – 5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นได้
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 12 – 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
ภาคเหนือ
วันที่ 12 – 13 ก.พ. 67
- อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
วันที่ 14 – 18 ก.พ. 67
- อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3 – 5 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยในวันที่ 17 - 18 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 12 – 13 ก.พ. 67
- อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
วันที่ 14 – 18 ก.พ. 67
- อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3 – 5 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยในช่วงวันที่ 17 - 18 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ภาคกลาง
วันที่ 12 – 13 ก.พ. 67
- อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
วันที่ 14 – 18 ก.พ. 67
- อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3 – 5 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยในช่วงวันที่ 16 – 18 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
วันที่ 12 – 13 ก.พ. 67
- อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
วันที่ 14 – 18 ก.พ. 67
- อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3 – 5 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 37 องศาเซลเซียส
วันที่ 12 - 13 ก.พ. 67
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
วันที่ 14 – 18 ก.พ. 67
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 37 องศาเซลเซียส
วันที่ 12 - 13 ก.พ. 67
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
วันที่ 14 - 18 ก.พ. 67
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
วันที่ 12 – 13 ก.พ. 67
- อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
วันที่ 14 – 18 ก.พ. 67
- มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3 – 5 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยในช่วงวันที่ 16 – 18 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม