วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 น.กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 11 เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
- อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
- อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส
- บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง
- อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
- บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
- อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง
- อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
- อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง
- อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
- อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎ์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และกระบี่
- อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
- อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง
- อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.