ผ่าขบวนการ “รีดทรัพย์กรมการข้าว” บิ๊กเต่า แฉเอง มีหน่วยงานโดนร้อยล้านบาท

29 ม.ค. 2567 | 13:44 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ม.ค. 2567 | 13:52 น.

“บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผ่าขบวนการรีดทรัพย์ อธิบดีกรมการข้าว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเอาผิด “ปลาใหญ่-คนส่งข้อมูลให้” เตรียมขยายผลสอบหลังหน่วยงานอื่นถูกเรียกรับเงินด้วยกว่า 100 ล้านบาท

ช่วงเช้าวันนี้(29ม.ค.67) ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ปปป.)  พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประชุมชุดคลี่คลายคดีที่นายศรีสุวรรณ นายยศวริศ และนางสาวพิมณัฏฐา ร่วมกันข่มขู่เรียกเงิน จากอธิบดีกรมการข้าวจำนวน 3 ล้านบาท แลกกับการไม่ร้องเรียนโครงการทุจริต โดยได้เชิญ เจ้าหน้าที่ ปปท. และ ปปง. และ ปปช. เข้ามาร่วมประชุมด้วย

โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกก่อนเริ่มประชุมสั้นๆว่า วันนี้มีการเรียกชุดสืบสวนคลี่คลายคดี และเจ้าหน้าที่ ปปง. /ปปท. มาประชุม เพราะเป็นการทำงานในรูปแบบของคณะทำงาน โดยจะมีการพูดคุยกับคณะทำงานในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดี  ซึ่งจะมีการพิจารณาว่า คดีดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินด้วยหรือไม่  โดยได้มีการเชิญ ปปง. ในฐานะคณะทำงานมาร่วมพิจารณาข้อกฎหมาย และจะขอตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน 

 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ พูดก่อนเดินเข้าห้องประชุมยืนยันว่า จะดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง และจะเดินหน้าสืบสวนสอบสวนในทุกมิติ “เต็มที่ เดินเต็มร้อย เต็มสูบ ถ้าเครื่องไม่พังก่อน”

จากนั้นใช้เวลาการประชุมนานกว่า1ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ก็เปิดเผยถึงการประชุมว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานมีความคืบหน้าไปเยอะ โดยเฉพาะคำให้การของอธิบดีกรมการข้าวที่ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก

ซึ่งยืนยันย้ำว่า มีความมั่นใจในพยานหลักฐาน เพราะเป็นหลักฐานและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งคลิป ทั้งวีดีโอ เป็นหลักฐานที่มีลำดับเป็นขั้นเป็นตอน ที่ตำรวจได้ทำงานร่วมกับผู้เสียหาย และได้ให้คำแนะนำเพื่อให้รวบรวมพยานหลักฐานชิ้นนี้และให้นำมาให้ 

ผ่าขบวนการ “รีดทรัพย์กรมการข้าว” บิ๊กเต่า แฉเอง มีหน่วยงานโดนร้อยล้านบาท

ซึ่งสามารถระบุถึงพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าวได้ชัดเจนว่า มีการวางแผนทำเป็นขั้นตอน ทั้งคนชี้เป้า คนเสิร์ฟข้อมูล คนเคลียร์ คนรับเงิน และยังพบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายคน ซึ่งจะต้องเรียกเข้ามาสอบปากคำ โดยมีคนหนึ่งที่คาดว่า น่าจะเป็นคนให้ข้อมูลกับระดับ 'ผู้สั่งการ' ในขบวนการดังกล่าวให้ร้องเรียนในที่ต่างๆ  

ทั้งนี้ตำรวจยังเชื่อว่าด้วยว่า น่าจะมีผู้สั่งการในระดับที่สูงขึ้นไปอีกนอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คนขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน 

“ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำ จริงๆผมอยากได้ปลาใหญ่กว่านั้น ดูสิปลาใหญ่ จะทำอย่างไรบ้าง” แต่ไม่ขอตอบว่า ปลาใหญ่เป็นนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่

ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบวงจรปิดบริเวณรอบบ้านนายศรีสุวรรณ รวมถึงโทรศัพท์ของผู้เสียหายนั้น อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบทุกขั้นตอน คาดว่าจะเสร็จในวันนี้

ผ่าขบวนการ “รีดทรัพย์กรมการข้าว” บิ๊กเต่า แฉเอง มีหน่วยงานโดนร้อยล้านบาท

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังบอกอีกว่า ยังมีข้อมูลว่ามีหน่วยงานอื่นที่ถูกเรียกรับทรัพย์จากกลุ่มดังกล่าวในระดับร้อยล้านบาท แต่ยังไม่มีการจ่ายเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานดังกล่าวว่าจะเข้ามาให้ข้อมูลหรือไม่ เพราะกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากเรื่องของอธิบดีกรมการข้าวเป็นเรื่องหนึ่ง หากมีเรื่องอื่นเราก็จะเปิด เพราะพวกนี้เป็นภัยสังคม ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายทำให้เกิดความเสี่ยมเสียเกียรติยศของหน้าที่ราชการ

“ผมในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่า กลุ่มคนพวกนี้มีพฤติกรรมในการรีดทรัพย์จากกลุ่มต่างๆ ทั้งเอกชน และข้าราชการที่เขามองว่าสามารถทำได้ พวกมิจฉาชีพพวกนี้ มีทั้งบนท้องถนน เช่น พวกตบทองต้องมีคนทำทองหล่น แล้วไปเจอทองต้องมีการเจรจา อันนี้ก็เหมือนกัน มีคนทำเรื่องมาส่งให้คนร้อง คนร้องไปหาคนเคลียร์ คนเคลียร์ไปหาคนร้อง มีบัญชีมัา เป็นการทำงานแบบปลาเล็กปลาใหญ่ คนพวกนี้ การกระทำกันจนย่ามใจ ไม่รู้ว่าขอบเขตของกฎหมายเป็นอย่างไร และบางคนในทรัพย์สินร่ำรวย มีบ้าน 10 หลัง มีที่นาเป็น 100 ไร่ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป”

ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังยืนยันด้วยว่า ชุดพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับแรงกดดันจากฝ่ายการเมืองมา แต่อย่างใดและ ยังไม่มีใครติดต่อมา หากมีก็รับมาตรา 157 ไปก่อน 

ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่า มีการลาออกจากเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ทนายความของผู้เสียหาย ก็เป็นห่วงเรื่องการดำเนินคดี ตามข้อกล่าวหานั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า เป็นเรื่องของรองนายกฯ หรือเลขาที่ออกมาพูดเป็นสิทธิที่จะพูดอะไรก็ได้ แต่เราในฐานะคณะพนักงานสอบสวน เรากำลังเดินอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานและข้อเท็จจริง ผู้ต้องหา หรือใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะพูดยังไงเราก็รับฟังแต่จะไม่เดินนอกเหรือจากพยานหลักฐานที่มี  ถ้าคิดว่ามีหนังสือยกเลิกก็ส่งมาเราก็จะรับฟัง