"โรคปอดอักเสบในเด็ก" ระบาดที่จีน สธ.ไทยสั่งเฝ้าระวังเข้ม

25 พ.ย. 2566 | 16:55 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2566 | 17:59 น.

ไทยยังคงเฝ้าระวัง การระบาดของโรคปอดอักเสบในเด็กที่จีน "ชลน่าน" สั่งกรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระดมนักวิชาการด้านโรคติดเชื้อ มือปราบโควิด ร่วมถก เผย หากจำเป็นเตรียม 4 มาตรการพร้อมรองรับ ยัน WHO ระบุเป็นเชื้อเดิม

จากการระบาดของโรคปอดอักเสบในเด็กที่ประเทศจีน ทำให้มีข้อกังวลเรื่องการแพร่ระบาดมายังประเทศไทย ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ได้แก่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ, ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ และ รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ และหน่วยงานสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรครองรับ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ยืนยันชัดเจนว่า โรคปอดอักเสบในเด็กที่ประเทศจีน เกิดจากเชื้อก่อโรคตัวเดิมที่ว่างเว้นการระบาดช่วง 3 ปีในช่วงของการเข้มงวดมาตรการโควิด แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ล่าสุดได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อมาหารือ เพื่อเตรียมมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคแล้ว

นพ.ชลน่าน รมว.สาธารณสุข ระบุว่า หากสถานการณ์มีความจำเป็น จะเพิ่มความเข้มข้นใน 4 มาตรการ คือ 

1.มาตรการเฝ้าระวังโรค

ให้ทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว ติดตามสถานการณ์โรคปอดอักเสบในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด กรณีพบผู้ป่วยปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ ให้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งทางเดินหายใจส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเชื้อก่อโรค

หากพบผู้ป่วยปอดอักเสบจำนวนมากผิดปกติ หรือบุคลากรทางการแพทย์เป็นปอดอักเสบ หรือพบผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงเฉียบพลันหรือเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ให้รีบสอบสวนและเก็บตัวอย่างส่งตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยและควบคุมโรคต่อไป 

2.มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล

ให้สื่อสารความเสี่ยงกับประชาชน ทั้งเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ สำหรับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจและผู้ที่ใกล้ชิดผู้ป่วย โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ 

3.มาตรการด้านการรักษา

ให้โรงพยาบาลเตรียมชุดอุปกรณ์ป้องกันตนเอง ยา เวชภัณฑ์และเตียง เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินตามแผนการตอบโต้สถานการณ์ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เมืองท่องเที่ยว

4.พร้อมยกระดับการเฝ้าระวัง

กรณีพบการระบาดของโรคปอดอักเสบรุนแรงไม่ทราบสาเหตุเป็นวงกว้างในต่างประเทศ และตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค โดยด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศที่สนามบินนานาชาติคัดกรอง ผู้มีอาการทางเดินหายใจและเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อก่อโรค รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน ด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับสถานการณ์ได้ทันที 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนตระหนักเพื่อระมัดระวังป้องกันแต่ไม่ต้องวิตกกังวล ติดตามข้อมูลสถานการณ์ และคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นระยะต่อไป