รัฐบาล จัดสรรเงินค่าเสี่ยงภัยโควิด 2,995.7 ล้านบาทแล้ว

21 ส.ค. 2566 | 13:28 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ส.ค. 2566 | 13:40 น.
583

รัฐบาล จัดสรรเงินค่าเสี่ยงภัยโควิด 2,995.7 ล้านบาทแล้ว ขณะที่ สธ. เร่งเบิกจ่ายให้ผู้ปฏิบัติงานทั้งสายวิชาชีพและสายสนับสนุน ทั้งในและนอกสังกัดให้เสร็จภายในเดือนกันยายน 2566

จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี หรือ ครม.อนุมัติเงินค่าเสียงภัยโควิด 2,995.7 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ กระทรวงสาธารณสุขแล้ว เร่งจัดสรรตามระเบียบ เพื่อเบิกจ่ายให้ผู้ปฏิบัติงานทั้งสายวิชาชีพและสายสนับสนุน ทั้งในและนอกสังกัดให้เสร็จภายในเดือนกันยายน 2566

วันนี้ (21 สิงหาคม 2566) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการเบิกจ่ายค่าเสี่ยงภัยโควิด 19 ว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 เห็นชอบอนุมัติค่าตอบแทนเสี่ยงภัยจากงบกลาง วงเงิน 2,995.95 ล้านบาท เพื่อเบิกจ่ายให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวข้องกับโรคโควิด 19 ทั้งสายวิชาชีพและสายสนับสนุน ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 - ครึ่งเดือนแรกของมิถุนายน 2565

 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้พยายามเร่งรัดกระบวนการเบิกจ่ายด้วยความรวดเร็ว โดยได้ทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรค่าเสี่ยงภัยโควิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุด สำนักงบประมาณได้โอนค่าเสี่ยงภัยโควิด 2,995.7 ล้านบาท ให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการตามกระบวนการและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้หน่วยงานทั้งในและนอกสังกัดภายในสัปดาห์หน้า และเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2566 

 

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ในการเบิกจ่ายจะเป็นไปตามข้อมูลเอกสารที่หน่วยงานต้นสังกัดรวบรวมเข้ามา โดยในส่วนของหน่วยงานสังกัดกระทรวง  สาธารณสุข เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป กองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นหน่วยดำเนินการจัดสรรและแจ้งกองคลังโอนงบประมาณไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั้ง 76 แห่ง เพื่อตรวจสอบเอกสารเบิกจ่าย ทำเรื่องขออนุมัตินายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และโอนค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้กับให้กับหน่วยบริการต่างๆ ส่วนหน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นหน่วยดำเนินการตรวจสอบเอกสารเบิกจ่ายและขออนุมัติปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อโอนงบประมาณไปยังหน่วยงานภายนอก.