“กรมการขนส่งทางบก” เปิดอบรมทำใบขับขี่ 2566 ฟรี เช็คเงื่อนไขที่นี่
“กรมการขนส่งทางบก” เปิดอบรมทำใบขับขี่ 2566 ฟรี เริ่มวันที่ 7-8 ม.ค.นี้ เผยเงื่อนไข-หลักฐานการสมัครต้องเตรียมอะไรบ้าง พร้อมรับใบขับขี่ทันที หลังทดสอบผ่านการประเมิน
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ในปี 2566 กรมการขนส่งทางบกจัดโครงการอบรมเสริมความรู้ด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนแก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อให้ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ขับรถเป็นแล้วแต่ยังไม่มีใบอนุญาตขับรถและไม่สะดวกดำเนินการในวันธรรมดา สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักถึงการใช้รถใช้ถนนที่ถูกต้องตามกฎหมายและปลอดภัย ในวันเสาร์และอาทิตย์ รุ่นที่ 249 จะจัดอบรมในวันที่ 7-8 มกราคม 2566 และรุ่นที่ 250 จัดอบรมในวันที่ 14-15 มกราคม 2566
เงื่อนไขผู้เข้าร่วมอบรมทำใบขับขี่ 2566 ดังนี้
1.ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์
2.เป็นผู้ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์มาก่อน
หลักฐานในการเข้าอบรมทำใบขับขี่ 2566
1. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนา
2.ใบรับรองแพทย์ฉบับจริงที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน
ทั้งนี้สามารถสมัครล่วงหน้าด้วยตนเองต้องสมัครด้วยตนเองเท่านั้น ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย บริเวณอาคาร 4 ชั้น 2 ณ กรมการขนส่งทางบก ภายในวันที่ 5 มกราคม 2566
ส่วนของเนื้อหาของหลักสูตรการอบรม วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2566 ผู้ขับขี่จะได้รับความรู้ด้านกฎหมายจราจร วินัยจราจร มารยาทในการขับรถ เทคนิคการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยในสถานการณ์ต่างๆ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ตามหลักสูตรอบรม 5 ชั่วโมงของกรมการขนส่งทางบกและเข้ารับการทดสอบข้อเขียนระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-exam)
ขณะที่วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2566 ทดสอบขับรถในสนามขับรถมาตรฐานกรมการขนส่งทางบก โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแลการอบรมทดสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและระเบียบเดียวกับการขอรับใบอนุญาตขับรถในวันเวลาราชการ กรณีที่ผ่านการอบรม ทดสอบ จะได้รับใบอนุญาตขับรถ และเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขับรถ 105 บาท
อย่างไรก็ตามกรมการขนส่งทางบกจะจัดโครงการอบรมเสริมความรู้ด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนแก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ตลอดทั้งปี 2566 โดยมีความมั่นใจว่าโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ขับขี่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ขับขี่จะได้รับความรู้และเข้าใจถึงกฎระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ในการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้อง เกิดจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน ส่งผลให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนด้วยรถจักรยานยนต์ลดน้อยลง