ปภ.แจ้ง 13 จังหวัดภาคใต้ เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 4 - 6 พ.ย.65

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.65 เวลา 21.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (311/2565) ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 เวลา 17.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 4 - 6 พฤศจิกายน 2565 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ตอนกลางจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ อ่าวไทย และทะเลอันดามัน

 

ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยช่วงวันที่ 4 - 6 พฤศจิกายน 2565 มีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก 13 จังหวัด ดังนี้

• ชุมพร (อำเภอเมืองฯ หลังสวน ละแม สวี พะโต๊ะ)

 

• สุราษฎร์ธานี (อำเภอท่าฉาง กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก เกาะสมุย เกาะพะงัน พระแสง คีรีรัฐนิคม ท่าชนะ บ้านนาสาร ไชยา พนม พุนพิน)

• นครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองฯ ขนอม สิชล จุฬาภรณ์ ท่าศาลา นบพิตำ พระพรหม เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด หัวไทร ปากพนัง)

 

• พัทลุง (อำเภอเมืองฯ กงหรา ป่าบอน ศรีบรรพต บางแก้ว เขาชัยสน ตะโหมด ศรีนครินทร์ ป่าพะยอม ควนขนุน)

 

• สงขลา (อำเภอเมืองฯ หาดใหญ่ กระแสสินธุ์ ระโนด สะเดา สทิงพระ สะบ้าย้อย สิงหนคร รัตภูมิ จะนะ นาหม่อม นาทวี)

 

• ปัตตานี (อำเภอสายบุรี โคกโพธิ์)

 

• ยะลา (อำเภอยะหา เบตง กาบัง บันนังสตา กรงปินัง ธารโต)

 

• นราธิวาส (อำเภอจะแนะ ยี่งอ ระแงะ สุไหงปาดี ศรีสาคร รือเสาะ สุไหงโก-ลก)

 

• พังงา (อำเภอเมืองฯ กะปง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า ทับปุด ตะกั่วทุ่ง คุระบุรี)

 

• ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)

 

• กระบี่ (อำเภออ่าวลึก เขาพนม เกาะลันตา ลำทับ ปลายพระยา)

 

• ตรัง (อำเภอเมืองฯ ห้วยยอด ปะเหลียน ย่านตาขาว นาโยง สิเกา รัษฎา วังวิเศษ)

 

• สตูล (อำเภอเมืองฯ ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ)

 

 

กอปภ.ก. ได้ประสานแจ้ง 13 จังหวัดภาคใต้ และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา เขต18 ภูเก็ต เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามปริมาณฝนตกในแต่ละจุดอย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงที่มีฝนตกหนักและปริมาณฝนตกสะสม สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด

 

หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่ รวมถึงจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) และเครื่องมือเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนทันที ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง