เช็ก! เส้นทางสัญจรได้-ไม่ได้ หลังน้ำท่วม 19 จังหวัด พร้อมเฝ้าระวังต่อเนื่อง

13 ต.ค. 2565 | 14:47 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ต.ค. 2565 | 21:48 น.

อัพเดทที่นี่ กรมทางหลวง รายงานสถานการณ์น้ำท่วม พบทางหลวงถูกน้ำท่วม 19 จังหวัด การจราจรผ่านไม่ได้ 30 แห่ง พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

เช็ก! เส้นทางสัญจรได้-ไม่ได้ หลังน้ำท่วม 19 จังหวัด พร้อมเฝ้าระวังต่อเนื่อง

วันที่ 13 ตุลาคม 2565 นายสราวุธ  ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน จากสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวงหมายเลข 338 ช่วง กม. 24+800 – 25+300 ระดับน้ำสูงประมาณ 10 – 30 ซม. เนื่องจากน้ำในแม่น้ำนครชัยศรี (แม่น้ำท่าจีน) เอ่อล้นเข้าท่วมแนวกระสอบทรายเดิมที่กั้นไว้  โดยดำเนินการเสริมคันกระสอบทรายและเร่งระบายน้ำโดยเร็วที่สุดเพื่อคืนผิวจราจร พร้อมร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง

 

เช็ก! เส้นทางสัญจรได้-ไม่ได้ หลังน้ำท่วม 19 จังหวัด พร้อมเฝ้าระวังต่อเนื่อง

ในขณะที่บางพื้นที่ก็มีการล้างทำความสะอาดถนน ทางลอดใต้สะพานหลังจากน้ำลดลงบ้างแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใย จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยประชาชนอย่างทันท่วงที 

เช็ก! เส้นทางสัญจรได้-ไม่ได้ หลังน้ำท่วม 19 จังหวัด พร้อมเฝ้าระวังต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 13 ตุลาคม  2565 เวลา 12.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์, จ.บุรีรัมย์, จ.นครราชสีมา ,จ.หนองบัวลำภู , จ.อุบลราชธานี, จ.ร้อยเอ็ด, จ.มหาสารคาม, จ.ยโสธร, จ.สระบุรี, จ.ลพบุรี, จ.สุพรรณบุรี, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.สิงห์บุรี, จ.นครสวรรค์, จ.อุทัยธานี, และ จ.ปราจีนบุรี, จำนวน 45 สายทาง 65 แห่ง  การจราจรผ่านไม่ได้ 30 แห่ง ดังนี้

 

 

1. จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง ได้แก่

 

  - ทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล – ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150 – 34+000 ทางขาด การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

 - ทางหลวงหมายเลข 2131 ตอน บ้านสะอาด – เหล่านางาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 6+700 – 8+200 ระดับน้ำ 80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้            

 

 - ทางหลวงหมายเลข 2183 ตอน น้ำพอง – โคกท่า ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ช่วง กม.ที่ 14+500 – 15+100 ระดับน้ำ 40 - 45 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแยกโคกท่า กม.25+600       

 

 2. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่

 

- ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+000 – 313+384 ระดับน้ำ 60 – 80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2178

 

- ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอน หัวช้าง – สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000 – 19+500 ระดับน้ำ 45 – 90 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

- ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500 – 29+000 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

 

 

 

- ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

-ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 37+000  - 39+500 ระดับน้ำ 55 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้            

 

- ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500 – 107+125 ระดับน้ำ 80 - 95 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

- ทางหลวงหมายเลข 2373 ตอน โนนสำนัก – ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+050 ระดับน้ำ 45 - 85 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

- ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 60 - 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

 3. จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 แห่ง 

 

- ทางหลวงหมายเลข 2285 ตอน ประทาย – ชุมพวง ในพื้นที่ อ.ชุมพวง ช่วง กม.ที่ 18+700 – 20+300 ระดับน้ำ 20 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.2 ตรงไปถึงแยกบ้านวัดเลี้ยวขวาเข้า ทล.207

 

4. จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง 

  - ทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู - เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+000 ระดับน้ำ 20 - 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทช.4013

 

5. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 7 แห่ง

- ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 115 ซม. แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี

 

-ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 259+700 – 261+800 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

- ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400 – 313+700 ระดับน้ำ 75 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

- ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 319+800 ระดับน้ำ 135 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

- ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600 – 8+200 ระดับน้ำ 105 - 140 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231

 

- ทางหลวงหมายเลข 2404 ตอน เขื่องใน – นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 14+120 – 14+550 ระดับน้ำ 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2408 และ 2382

 

- ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าวารี – ท่าศาลา ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 9+500 – 10+325 ระดับน้ำ 25 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

6.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง

 - ทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง - บ้านเขื่อน พื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 17+300 - กม.18+000 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.12 ช่วง กม.567+900

 

7. จังหวัดสระบุรี จำนวน 1 แห่ง

 - ทางหลวงหมายเลข 3034 หน้าพระลาน – บ้านครัว ในพื้นที่ อ.บ้านหมอ ช่วง กม.ที่ 13+400 - 15+700 ระดับน้ำ 40 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

8. จังหวัดอ่างทอง จำนวน 2 แห่ง

- ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 9+900 – 10+400 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้

 

- ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 10+400 – 11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้

 

9.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง

 

 - ทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา - บางบาล ช่วง กม.ที่ 14+600 – 15+800 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038

 

10. จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 4 แห่ง

        - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน แยกวัดสนามไชย - วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 33+500 – 35+100 ระดับน้ำ 105 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030

 

        - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา  - บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 39+900 – 44+100 ระดับน้ำ 80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)

 

         - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา  - บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 57+400 – 57+850 ระดับน้ำ 40 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)

 

          - ทางหลวงหมายเลข 3030 ตอน ดงมะขามเทศ – บางระจัน ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+100 ระดับน้ำ 30 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ 

 

11. จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 1 แห่ง

 - ทางหลวงหมายเลข 3522 ตอน เนินฝอยทอง – ทุ่งผักเบี้ย ในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี ช่วง กม.ที่ 3+800 – 4+100 ระดับน้ำ 30 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ 

 

 ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  นอกจากนี้กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง

 

ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1