ปภ.แจ้ง 76 จังหวัด-กรุงเทพ เฝ้าระวังฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน 9-11 ต.ค.นี้

09 ต.ค. 2565 | 14:22 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ต.ค. 2565 | 21:31 น.
1.3 k

ปภ.แจ้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง อุณหภูมิลง และน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ระหว่าง 9-11 ต.ค.65

9 ต.ค.65 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง อุณหภูมิลง และน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก พร้อมแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ปภ.แจ้ง 76 จังหวัด-กรุงเทพ เฝ้าระวังฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน 9-11 ต.ค.นี้

รวมถึงประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทยได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 2 (273/2565) ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2565 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 9-14 ตุลาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางพื้นที่ เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 9-11 ตุลาคม 2565 หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง

 

โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือและภาคกลาง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ประกอบกับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 9-11 ตุลาคม 2565 และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2565 ดังนี้

1. สถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

2. สถานการณ์อุณหภูมิลดลง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

3. สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก บริเวณ ภาคกลาง จ.เพชรบุรี (อ.ชะอำ หนองหญ้าปล้อง แก่งกระจาน ท่ายาง) และประจวบคีรีขันธ์ (ทุกอำเภอ) ภาคใต้ จ.ชุมพร (ทุกอำเภอ) สุราษฎร์ธานี (อ.ท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง วิภาวดี กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก คีรีรัฐนิคม พนม เวียงสระ เคียนซา พระแสง บ้านนาสาร ชัยบุรี บ้านตาขุน เกาะสมุย เกาะพะงัน) นครศรีธรรมราช (อ.เมืองฯ พรหมคีรี พิปูน ฉวาง ลานสกา ช้างกลาง ร่อนพิบูลย์ ทุ่งสง นาบอน ขนอม สิชล นบพิตำ ชะอวด ท่าศาลา จุฬาภรณ์) พัทลุง (อ.ตะโหมด ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ กงหรา ป่าบอน ป่าพะยอม เขาชัยสน) สงขลา (อ.เมืองฯ รัตภูมิ จะนะ หาดใหญ่ สะเดา สะบ้าย้อย นาหม่อม นาทวี) ปัตตานี (อ.โคกโพธิ์) ยะลา (อ.ยะหา กาบัง บันนังสตา กรงปินัง ธารโต เบตง) นราธิวาส (อ.ศรีสาคร รือเสาะ จะแนะ) ระนอง (อ.ละอุ่น เมืองฯ กะเปอร์) พังงา (อ.เมืองฯ ตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง กะปง คุระบุรี ท้ายเหมือง) ภูเก็ต (อ.ถลาง) กระบี่ (อ.เขาพนม เกาะลันตา ลำทับ ปลายพระยา) ตรัง (อ.เมืองฯ นาโยง สิเกา ย่านตาขาว รัษฎา วังวิเศษ ห้วยยอด) และสตูล (อ.เมืองฯ ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ)

 

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง อุณหภูมิลง และน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงนำเครื่องมือเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเข้าประจำจุดเสี่ยงอันตรายและพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือประชาชนทันที ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด

 

สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง

 

ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย และหลีกเลี่ยงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน “พ้นภัย”รวมถึง สายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป