เป็นครั้งแรกที่ ISUZU MU-X ติดตั้งพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และกล้อง 360 องศารอบคัน
อีกประเด็นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทีมอีซูซุโรงงาน ยังทำเรื่องการปล่อยไอเสียให้ผ่านมาตรฐานยูโร 5 ครับ โดยเพิ่ม DPF - Diesel Particulate Filter ระบบจัดการเขม่าด้วยความร้อน ซึ่งจะมีปุ่มให้กดบริเวณด้านขวาคอนโซล (แต่รถจะบริหารจัดการให้อัตโนมัติ หากขับขี่ในรูปแบบปกติ)
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่อีซูซุ ติดตั้งระบบพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EPS และกล้อง 360 องศารอบคันมาให้ ISUZU MU-X 2024 ด้านขุมพลังยังเป็นดีเซล 1.9 ลิตร และ 3.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีให้เลือกทั้ง รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ และขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาเริ่มต้น 1.184 - 1.759 ล้านบาท
ล่าสุด ผมมีโอกาสได้ลองขับ รีวิว ISUZU MU-X 2024 รุ่นรองท็อป RS 3.0 4x2 ราคา 1.659 ล้านบาท ที่ได้ความหล่อใหม่จากการเป็นรุ่น RS (ชื่อเหมือนรุ่นย่อยฮอนด้า และตัวแรงของอาวดี้) กับชุดแต่งสีดำรอบคัน และฟังก์ชันความปลอดภัยเต็มพิกัด ซึ่งค่าตัวที่ถูกกว่ารุ่นท็อป 1 แสนบาทเป็นเรื่องของชุดเพลากลาง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ล้วนๆ ครับ
รีวิว ISUZU MU-X 2024 ออกแบบใหม่ ทั้งกันชน กระจังหน้า รายละเอียดในโคมไฟ กันชนท้าย สปอยเลอร์ พร้อมหลังคาสีดำ และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วสีดำ ขณะที่ตัวอักษร ISUZU แปะฝาท้ายมีขนาดเล็กลง พร้อมสัญลักษณ์ RS โดดเด่นทั้งภายนอกภายใน แสดงให้รู้ว่า ขับพีพีวีคันนี้ต้องจ่ายแพง
อย่างที่บอกครับ ถ้าเป็นรุ่น RS ขับเคลื่อนสองล้อ และขับเคลื่อนสี่ล้อ ถ้ามองภายนอกไม่มีอะไรต่างกัน จนกระทั่งคุณเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสาร เห็นปุ่มควบคุมระบบ 4x4
เครื่องยนต์ 4JJ3-TCX บล็อกพิมพ์นิยมไม่ต้องชื่นชมอะไรกันมาก ดีเซล 4 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
รีวิว ISUZU MU-X 2024 ในภาพรวมเครื่องยนต์ตอบสนองในการออกตัวได้ดี มีเข่น มีเค้นบ้างช่วงความเร็วกลาง เกียร์ไปเปลี่ยนแถวๆ 3 รอบ พละกำลังมาแบบเนียนๆ ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม อีซูซุ เซ็ตการตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าไว้ 2 ระดับ คือการเหยียบในน้ำหนักเท้าปกติ กดลงไปสัก 60-70% อัตราเร่งจะตื้ออยู่ระดับหนึ่ง แต่ถ้าต้องการปลดปล่อยพลังเต็มที่ คุณต้องเพิ่มน้ำหนักคันเร่ง ให้ผ่านจุดนี้ไป ถึงจะรับรู้ถึงความแรงอาการฉุดดึงที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่การขับความเร็ว 100 กม./ชม. ที่เกียร์สูงสุดรอบไม่ถึง 2,000 นะครับ แล้วอัตราบริโภคน้ำมันจากการขับทางไกล (เชียงใหม่-เชียงราย) อยู่ประมาณ 12-13 กม./ลิตร
ส่วนระบบพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ISUZU MU-X เป็นค่ายที่สองที่ใส่มาให้กับรถพีพีวี ต่อจากฟอร์ด เอเวอเรสต์ โดยน้ำหนักเบามือ ขับง่ายในความเร็วต่ำ หรือถอยจอด บังคับเลี้ยวในซอยสบายๆ และหน่วงน้ำหนักมากขึ้นเมื่อขับความเร็วสูง
การควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้ากับ ISUZU MU-X อาจจะไม่ได้แม่นยำเฉียบคมมาก กับรถยกสูงคันโตที่ต้องเน้นเรื่องสมดุลของความปลอดภัย แต่จากการเป็นพวงมาลัย EPS ยังไปสอดคล้องกับระบบความปลอดภัย ADAS ที่จะได้บางฟังก์ชันเพิ่มเข้ามา
ISUZU MU-X 2024 เดิมมีระบบ ADAS ใช้กล้องสองตัวตรวจจับสภาพแวดล้อมด้านหน้า มีระบบเตือนการชน (Forward Collision Warning) และระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking) รวมถึง Adaptive Cruise Control อยู่แล้ว แต่เมื่อมีพวงมาลัยไฟฟ้าเข้ามา จะได้ฟังก์ชันเพิ่มคือ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) ที่จะคอยเตือนและดึงพวงมาลัยกลับเข้ามาในช่องจราจรอัตโนมัติ ภายใต้ข้อแม้สำคัญคือเส้นถนนต้องชัด กล้องต้องตรวจจับได้
รวบรัดตัดความ...ที่ผ่านมา ISUZU MU-X ยังทำยอดขายสบายๆ 1,000 คันต่อเดือน (เป็นอันดับสองในตลาดพีพีวี รองจากฟอร์จูนเนอร์) ส่วนรุ่นใหม่ไมเนอร์เชนจ์ ปรับสมรรถนะการขับขี่ให้นวลเนียนมากขึ้นทั้งการควบคุมและช่วงล่าง เรียกว่าเป็น เอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานปิกอัพรุ่นที่ดีที่สุดตั้งแต่ อีซูซุ มอเตอร์ ผลิตมาแล้วละครับ
รีวิว ISUZU MU-X 2024 : กรกิต กสิคุณ