โปรดเกล้าฯ “ครม.เศรษฐา1” โดยตำแหน่งสำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมยานยนต์ มาตามคาดนำโดย นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกหนึ่งตําแหน่ง
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะเข้ามาสานงานต่อจากเจ้ากระทรวงคนก่อน “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ที่ปลุกปั้นให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่า บีโอไอเตรียมนำเสนอมาตรการ EV 3.5 ต่อบอร์ดอีวีอีกครั้งหนึ่ง ก่อนเสนอรัฐบาลชุดใหม่ภายในเดือนพฤศจิกายน หรือ ธันวาคมนี้ เพื่อให้เริ่มดำเนินการทันในเดือนมกราคม 2567
“มาตรการสนับสนุน EV 3.5 มีความสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการลดภาษีนำเข้าและอุดหนุนผู้ซื้อ EV แต่มีเงื่อนไขคือ บริษัทรถยนต์ที่เข้าร่วมเพื่อรับสิทธิประโยชน์นี้ ต้องผลิตชดเชยประเทศตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป” นายนฤตม์ กล่าว
นายมาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส- เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้การสนับสนุน EV มากที่สุดในภูมิภาค และอยากให้รัฐบาลใหม่รักษานโยบายนี้ เอาไว้อย่างต่อเนื่อง
“เราเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์(เมเจอร์แบรนด์) ที่ประกอบ EV เป็นรายแรกในไทย (EQS) เพราะมั่นใจในนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล และในเดือนกันยายนนี้ เตรียมเปิดตัว EV ใหม่อีก 2 รุ่น”
นายอเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค. 66) บริษัทมียอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 4.8% โดยเฉพาะ EV มีอัตราการเติบโต 197% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย
นายเป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2567 บริษัทขึ้นไลน์ผลิต Neta V ในเดือนมีนาคม ตามด้วยเอสยูวีรุ่นใหม่ในช่วงไตรมาสที่สาม และกำลังรอดูว่ารัฐบาลใหม่จะเคาะนโยบาย EV 3.5 ต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งจากมาตรการ EV 3.0 ในตอนนี้ จะเห็นว่ามีระยะเวลาการสนับสนุนรวม 4 ปีที่เท่านั้น (2565-2568) ยังถือว่าน้อยไปนิด ถ้าเทียบกับรัฐบาลจีนที่เคยให้การสนับสนุนเป็น 10 ปี
“จากมาตรการ EV 3.0 ถือว่าสั้นไป และให้ระยะเวลานำเข้ามาก่อนแค่ 2 ปี และต้องขึ้นไลน์ประกอบตั้งแต่ปี 2567 จึงอยากให้รัฐบาลใหม่พิจารณาขยายระยะเวลานำเข้ารถจากจีนมาทำตลาดเพิ่มขึ้น แม้จะต้องผลิตชดเชยเยอะขึ้นก็ตาม (EV 3.5)” นายเป่า จ้วงเฟย กล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า เศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้ที่ชื่นชอบรถพลังงานไฟฟ้าอยู่แล้ว ดังจะเห็นได้จากซื้อ EV ไว้ใช้งานส่วนตัว และนำไปใช้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆของแสนสิริ ดังนั้นการเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ควบคุมบอร์ดอีวี จึงมั่นใจว่า ทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ และตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า EV ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค. 66) มีจำนวนกว่า 37,000 คัน คาดว่ายอดทั้งปีจะเกิน 50,000 คัน