บริษัท สื่อสากล จำกัด นอกจากจะทำสื่อยานยนต์ผ่านแพลตฟอร์มออนกราวด์และออนไลน์ พร้อมอีเวนต์ใหญ่ส่งท้ายปีอย่าง “มอเตอร์เอ็กซ์โป” แล้ว เขายังมีอีกหนึ่งฟังก์ชันคือ โรงเรียนสอนขับรถยนต์ ซึ่งดูแลโดย “ปุ๊ก-ชไมพร ปภัสร์พงษ์” ลูกสาวของคุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัท นั่นละครับ
แต่อย่าเข้าใจผิดว่า บริษัทนี้เขาเปิดแผนกสอนขับรถยนต์เพื่อไปทำใบขับขี่อะไรอย่างนั้น แต่นี่เป็นคอร์สฝึกอบรมเพิ่มทักษะการขับขี่ให้ดีขึ้น ด้วยหลักสูตรแบบเดียวกับที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปเขาใช้กัน
กล่าวคือ คุณต้องขับรถเป็น และมีใบขับขี่ก่อน ถึงจะมาเรียนได้ ภายใต้โครงการ “ขับเป็น… ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล” (Skill Driving Experience) ซึ่งปีๆ หนึ่งจัดอยู่หลายครั้งครับ
ล่าสุด สื่อสากล ร่วมมือกับ xSpan บริษัทมืออาชีพที่ทำคอร์สฝึกอบรมการขับขี่ให้กับหลายบริษัท พร้อมด้วยครูฝึกระดับแนวหน้าของประเทศ (ส่วนใหญ่เป็นนักแข่งดีกรีแชมป์ประเทศไทย) จัดโครงการ SKILL DRIVING CSR FOR PRESS by IMC & xSpan ซึ่งผมมีโอกาส ไปร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย
กิจกรรม “ขับเป็น…ขับปลอดภัย” คราวนี้มากับคอร์สฝึกอบรมการขับขี่ขั้นสูง นั่นหมายถึงว่า จะต้องรู้ลึก รู้จริง และมีภาคปฏิบัติที่โหดกว่าเดิม โดยใช้เวลารํ่าเรียนตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น ผ่านหลายสถานีทดสอบ พร้อมด้วยรถยนต์ประมาณ 20 คัน (แบ่งผู้เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม)
แม่งานใหญ่ “ครูปุ๊ก-ชไมพร” หวังให้ผู้สื่อข่าวได้ พัฒนาทักษะการขับขี่รถยนต์ เรียนรู้สมรรถนะ และเข้าใจศักยภาพของรถ ซึ่งมันจำเป็นสำหรับงานของแต่ละคน (ผู้สื่อข่าว) ส่วนรถที่นำมาให้พวกเราได้ฝึกฝนมีทั้ง ค่ายเยอรมัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู อาวดี้ และฝั่งญี่ปุ่นอย่าง ซูบารุ ที่ให้ฟอเรสเตอร์ มาใช้แข่งในสถานีจิมคาน่า (สลาลอมจับเวลา)
นอกจากนี้ ยังมีสถานีที่ให้สัมผัสอาการอันเดอร์สเตียร์ หรือ “หน้าดื้อ” ทำการเบรกในโค้งด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. เพื่อเรียนรู้การควบคุมพวงมาลัยในจังหวะที่เหมาะสม มองหาทางออกที่จะมุ่งไป
กลับกันในสถานีดริฟท์เต็มวงกลม ทำให้รถเกิดอาการโอเวอร์สเตียร์ แล้วฝึกการควบคุมพวงมาลัย การเบรก และการเดินคันเร่ง
เหนืออื่นใดคือเรื่องการใช้สายตา หรือ Eye Technic ที่ผมว่าสำคัญพอๆ กับเทคนิค การขับขี่อื่นๆ โดยสถานีเปลี่ยนเลนในความเร็วสูง (80-100 กม./ชม.) สะท้อนหลักการนี้ได้ดี
สถานีนี้เราเดินคันเร่งขับรถมาตรงๆ ใช้ความเร็ว 100 กม./ชม. จากนั้นเมื่อเจอกรวยขวางหน้า ให้หักหลบโดยไม่ต้องแตะเบรก หลักการคือเราต้องมองช่องทางที่จะออกไว้ พร้อมกับตัดสินใจอย่างรวดเร็ว แล้วมือทั้งสองข้างมันจะควบคุมพวงมาลัยให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ สำคัญคือ มือต้องไว ตาต้องมองไกลๆ
Skill Driving Experience ในวันนั้นยังปิดท้ายงามๆ ด้วยสถานี “เจ-เทิร์น” เหมือนที่เราเห็นฉากรถไล่ล่ากันในหนังฮอลลีวูด นั่นละครับ
การใส่เกียร์ถอยหลังแล้วควบคุมให้รถหมุนหน้ากลับมา จริงๆ เราอาจจะไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่สถานีนี้จะเป็นการฝึกสมาธิ ฝึกการตัดสินใจ และการควบคุมรถในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งผู้ฝึกสอนเขาก็ใจดี พรมนํ้าให้เปียก เพื่อช่วยให้รถเราหมุนได้ง่ายขึ้น ส่วนใครจะ “เจ-เทิร์น” ได้แคบและหันกลับมาตรงขนาดไหน ขึ้นอยู่กับเทคนิคการควบคุมพวงมาลัยที่ต้องไปในองศาที่ถูกต้อง และรวดเร็วมากๆ
สำหรับโครงการ “ขับเป็น...ขับปลอดภัย” หน่วยงานไหนอยากให้คนในองค์กรตนเอง ขับรถได้ดีขึ้น (ถ้าเกี่ยวข้องกับหน้าที่โดยตรงยิ่งเห็นประโยชน์) สามารถติดต่อไปที่บริษัทสื่อสากล ได้เลย หรือบุคคลทั่วไปลองติดตามข่าวสารดู เพราะปีๆ หนึ่งเขาเปิดรับสมัครให้เข้ามาเรียนอยู่หลายครั้ง
แน่นอนว่าการขับรถเป็น กับขับรถได้ต่างกันเยอะครับ ดังนั้นหากมีโอกาสเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะการขับขี่มาบ้าง หากเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คงจะช่วยให้ท่านตัดสินใจได้เฉียบคม และควบคุมรถได้ปลอดภัยมากขึ้น บนท้องถนนสภาพนรกอย่างประเทศไทย
เรื่อง : กรกิต กสิคุณ
ภาพ : สื่อสากล