มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัวเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจ All new Mitsubishi Triton ครั้งแรกในโลก โดยรถเริ่มลงโชว์รูมทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2566
โมเดลเชนจ์ของ Mitsubishi Triton ถือว่าเปิดตัวช้ากว่ากำหนดเดิมเล็กน้อย จากที่วางแผนไว้ปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 โดยโรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง จ.ชลบุรี จะรับหน้าที่เป็นศูนย์กลางผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งไทรทันโฉมนี้ จะถูกส่งกลับไปขายที่ ญี่ปุ่น ต้นปี 2567 อีกด้วย
ขณะที่กระแสข่าวก่อนการเปิดตัว คาดหมายกันว่า กลุ่มพันธมิตร นิสสัน มิตซูบิชิ จะมีการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ร่วมกัน หรือใช้โครงสร้างแชสซีส์ และบางพาร์ทที่เป็นชิ้นส่วนเดียวกันเพื่อลดต้นทุนการผลิต ล่าสุดในงานแถลงข่าวการเปิดตัวที่ประเทศไทย (26 ก.ค.) ประธานใหญ่ของ มิตซูบิชิ
มอเตอร์ส ออกมาปฏิเสธข่าวนี้
นายทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า All new Mitsubishi Triton เป็นฝีมือการพัฒนาของมิตซูบิชิ ไม่เกี่ยวข้องกับนิสสัน และตอนนี้ทั้งสองพันธมิตรยังไม่มีแผนที่จะตกลงใช้โครงสร้างหรือบางชิ้นส่วนร่วมกัน
ในส่วน Mitsubishi Triton เวอร์ชันขุมพลังไฟฟ้า นายคาโตะ ยังพูดชัดเจนว่า กำลังศึกษาอยู่ แต่ไม่ฟันธงว่าจะเป็นกระบะไฟฟ้าแบบไหน
“เรากำลังทดสอบมิตซูบิชิ ไทรทัน รถต้นแบบพลังงานไฟฟ้าอยู่ แต่ถ้าถามว่าเมื่อทำตลาดจริงจะเป็นระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด ปลั๊ก-อินไฮบริด หรือพลังงานไฟฟ้า 100% ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะเราต้องศึกษาความต้องการของตลาดด้วย” นายคาโตะ กล่าว
นายเออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ประเทศไทยตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมา ยอดขายซบเซา ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องการเมือง (ที่กำลังรอจัดตั้งรัฐบาล) ที่ประชาชนอาจจะชะลอการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงหนี้ภาคครัวเรือนที่สูง และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว All new Mitsubishi Triton ซึ่งเป็นโปรดักต์สำคัญ จะเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี โดยยอดพรีบุกกิ้งก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายใต้แคมเปญ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร” มีเข้ามากว่า 10,000 คัน ภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน
“เป้าหมายการขายในปีหน้า 2567 เราวางไว้ว่า Mitsubishi Triton ต้องมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นเลขสองหลัก ส่วนกำลังการผลิตเพื่อส่งออกวางแผนไว้ถึง 2 แสนคัน คิดเป็นสัดส่วน 80% ของการผลิตไทรทัน ทั้งหมดในไทย” นายโคอิโตะ กล่าวสรุป
สำหรับ All new Mitsubishi Triton ทำตลาดในไทยเป็นประเทศแรก จากนั้นจะตามด้วยกลุ่มอาเซียน และเอเชียโอเชียเนีย ประเดิมในไทยด้วย 8 รุ่นย่อย ทั้งตัวถังซิงเกิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II ราคา 699,000 บาท ไปจนถึง ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,016,000 บาท
ภายใต้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกัน ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน (VG Turbo) 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
ปัจจุบันมิตซูบิชิ ไทรทัน เสียตำแหน่งอันดับสามในตลาดปิกอัพให้แก่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ขณะที่ยอดขายรวมในครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 66) มิตซูบิชิทำได้ 19,835 คัน ลดลง 27.8% จากตลาดรวม 406,131 คันลดลง 5%