รถยนต์ไฟฟ้าจีนมาแรง เบียดค่ายญี่ปุ่นยอดร่วง

ตลาดรถยนต์ไทยปิดยอดขายรถครึ่งปีแรกได้ 406,131 คัน (ม.ค.-มิ.ย. 66) ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กลุ่มปิกอัพ 1 ตันร่วงถ้วนหน้า ทั้ง โตโยต้า อีซูซุ นิสสัน ขณะที่มิตซูบิชิ ไทรทัน กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนเป็นโฉมโมเดลเชนจ์

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณายอดขายค่ายญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ใน 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่า โตโยต้า ทำได้ 136,859 คัน ลดลง 3.6% ส่วนอีซูซุ 86,281 คัน ตก 21.5% เช่นเดียวกับแบรนด์เล็กอย่าง มิตซูบิชิ มาสด้า นิสสัน ซูซูกิ ที่ตัวเลขติดลบถ้วนหน้า และมีเพียง ฮอนด้า ที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 14.9% หลังจากขยับขยายกำลังผลิตได้มากขึ้น (เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากฐานยอดขายตํ่าในปี 2565)

ขณะที่กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีนสถานการณ์สดใส ทั้ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ และกลุ่ม EV ล้วนๆ อย่าง บีวายดี และเนต้า หรือจะมีเพียง เอ็มจีที่สะดุดไปเล็กน้อย (ดูตารางประกอบ)

สำหรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขายรวม 6,222 คัน เพิ่มขึ้น 19% ในจำนวนนี้เป็น EV ORA Good Cat 2,600 คัน HAVAL H6 จำนวน 2,051 คัน และ HAVAL JOLION 1,571 คัน

รายงานจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังยืนยันแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่า ภายใต้แผน Mission 9 in 3 หรือการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้า 9 รุ่น ใน 3 ปี ปัจจุบันบริษัทฯ เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว 5 รุ่น (ปี 2564-2565) และในปี 2566 จะแนะนำเพิ่มเติมได้แก่ เอสยูวีพรีเมี่ยม All New GWM TANK 500 Hybrid SUV และ GWM TANK 300  รวมถึง ORA Grand Cat

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ความสำเร็จของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลอดครึ่งแรกของปี 2566 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ และสะท้อนให้เห็นความสนใจและนิยมในรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้าน บีวายดี ผู้นำด้านยอดขาย EV ในเมืองไทย โดยครึ่งปีแรกจดทะเบียนรถใหม่ไปแล้ว 11,168 คัน ทิ้งห่างอันดับสอง Neta V ที่ทำได้ 5,955 คัน

สำหรับ บีวายดี โดย บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่ายอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมในปี 2566 ไว้สูงถึง 5 หมื่นคัน จาก BYD ATTO3 และ BYD Dolphin (เปิดตัว 6 มิ.ย. 66) ที่มีราคาเริ่มต้น 699,999 บาท รวมถึง EV อีกหนึ่งรุ่นใหม่ที่เตรียมเปิดตัวปลายปี

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากนำเข้า BYD ATTO 3 มาขายช่วงปลายปี 2565 ได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลาม ปัจจุบันมียอดจำหน่ายและส่งมอบไปกว่า 15,000 คันแล้ว

บีวายดี วางแผนเข้ามาทำธุรกิจระยะยาวในเมืองไทย จากการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่พวงมาลัยขวา เพื่อเป็นฐานการผลิต สนับสนุนการขายในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งในเดือนกันยายน 2565 BYD ได้เซ็นสัญญาซื้อที่ดินจาก WHA เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ BYD บนพื้นที่กว่า 600 ไร่ และต่อมาในเดือนมีนาคม 2566 จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกในประเทศไทย

“ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการก่อสร้าง ณ นิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ จ.ระยอง โดยโรงงานแห่งนี้จะเริ่มกำลังการผลิตโดยมีกำหนดการตามแผนจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 กำลังผลิต 150,000 คันต่อปี” นายประธานวงศ์ กล่าวสรุป