ฮุนไดเปิดตัว Hyundai Elantra N - EV Ioniq 5 นำเข้าจากเกาหลี ปลายปีนี้

หลังจาก ฮุนได มอเตอร์ ค่ายรถยนต์อันดับสามของโลก กระโดดลงมาทำธุรกิจในไทยด้วยตนเองโดยตั้งบริษัทลูก ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย เริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีนายเจ กิว จอง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ซึ่งก่อนหน้านั้นค่ายรถจากเกาหลีใต้เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ ในการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย พร้อมพูดคุยกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในเบื้องต้นแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า

อย่างไรก็ตาม ในส่วนแผนงานขายและการบริการหลังการขาย ที่รับไม้จากดิสทริบิวเตอร์ “โซจิทซ์” (ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์) ที่ปัจจุบันแปลงสภาพเป็นดีลเลอร์ ซึ่งบริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด พยายามสานงานแบบไร้รอยต่อ ทั้งแผนธุรกิจ ระบบบริหารจัดการ และพนักงาน พร้อมเช่าพื้นที่ชั้น 18 ของอาคาร Exchange เป็นสำนักงานใหญ่

ขณะที่กลุ่มโซจิทซ์ ย้ายออกจากสำนักงานใหญ่ ซึ่งเป็นโชว์รูม-ศูนย์บริการ และคลังอะไหล่ ออกจากถนนวิภาวดีรังสิต ไปอยู่ที่ บางปู และยังมีสาขาที่ รามอินทรา กม.4 ส่วนสาขา ปทุมวัน จะเป็นโชว์รูม ขายเท่านั้น

ล่าสุด บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด แต่งตั้ง วัลลภ เฉลิมวงศาเวช ให้เป็นกรรมการผู้จัดการ (MD) หวังใช้ประสบการณ์อันโชกโชน มาช่วยวางรากฐานของธุรกิจที่จะมีความเข้มข้นนับจากนี้ไป ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาเป็นผู้บริหารใหญ่ของ อาวดี้ ประเทศไทย ภายใต้บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด และเคยทำงานกับบริษัทรถยนต์ข้ามชาติทั้ง เจนเนอรัล มอเตอร์ส  (GM) และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย โดยมีความเชี่ยวชาญเรื่องการบริการหลังการขาย

หลังถูกคัดเลือกจาก ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย ให้ดำรงตำแหน่ง MD วัลลภ เฉลิมวงศาเวช จะเข้ามาดูภาพใหญ่ของธุรกิจ ทั้งการขาย การตลาด และการบริการหลังการขาย มีผลเดือนกรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป

ในส่วนแผนแนะนำโปรดักต์ใหม่ๆ ในไทยจะเริ่มเห็นความหลากหลายมากกว่ารถอเนกประสงค์ อย่าง Staria นำเข้าเกาหลี และกลุ่มนำเข้าจากอินโดนีเซีย ทั้ง H1 (ยังมีขายอยู่) Stargazer และ Creta ที่เตรียมกลับมาขายอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมนี้

สำหรับ Hyundai Creta เป็นบี-เอสยูวี นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย เปิดตัวในไทยครั้งแรกเดือนมีนาคม 2565 ด้วยราคาขาย 9.49 และ 9.99 แสนบาท ทว่าด้วยการแข่งขันสูง มีคู่แข่งในระดับราคานี้ขายอยู่เพียบ ทำให้ Creta ไม่ได้การตอบรับที่ดีมากนัก บวกกับเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านการทำธุรกิจ ดังนั้นช่วงปลายปีเดียวกัน ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ จึงตัดสินใจลดราคาลงมา 2 แสนบาท จนสามารถเคลียร์สต๊อกได้สำเร็จ

ส่วนการกลับมาทำตลาดเองของ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศ ไทย) จำกัด จะนำเข้า Hyundai Creta จากอินโดนีเซียมาเปิดตัวในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ แบ่งเป็นรุ่น Black Edition กับ Two tone Edition พร้อมขายในราคาตํ่ากว่า 9 แสนบาท

นอกจากนี้ช่วงปลายปี ฮุนได ยังมีทีเด็ดจากการทำตลาดรถยนต์ 2 รุ่นที่นำเข้ามาจากเกาหลีใต้ นั่นคือ ตัวแรง Hyundai Elantra N ซีดานพันธุ์ดุใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ไดเรกอินเจกชัน เทอร์โบ 276 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัตช์คู่ DCT 8 สปีด พร้อมแอโรพาร์ท รอบคัน และช่วงล่างที่ปรับจูนใหม่ (ให้ต่างจาก Elantra รุ่นปกติ)

ตลอดจน Hyundai Ioniq 5 ครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้า EV ที่แม้จะมีการตั้งโรงงานประกอบที่ประเทศอินโดนีเซียแล้ว แต่การทำตลาดในไทยจะนำเข้ามาจากประเทศเกาหลีใต้โดยตรง และต้องมาลุ้นว่าจะเป็นรุ่นมอเตอร์ 1 ตัว หรือรุ่นมอเตอร์คู่ ส่วนการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 380-450 กม.

ทั้งนี้ การตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ยังอยู่ในแผนของ ฮุนได มอเตอร์ แต่ในปัจจุบันยังต้องรอความชัดเจนหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา มีกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของเกาหลีใต้ เริ่มเข้ามาศึกษาและสำรวจลู่ทางในการลงทุน ผ่านการพูดคุยกับ BOI, สถาบันยานยนต์ และนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ในเขต EEC แล้ว