ฮุนได มอเตอร์ หวนกลับมาชิงชัยในการแข่งขันแรลลี่ชิงแชมป์โลก WRC อีกครั้งในฤดูกาล 2013 กับรถยนต์รุ่น Hyundai i20
ค่ายรถเกาหลี ต้องเผชิญคู่แข่งที่กระดูกแข็งโป๊กอย่างโฟล์คสวาเกน, ซีตรอง, ฟอร์ด และโตโยต้า โดย ฮุนได มอเตอร์สปอร์ต ทีม ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะได้สัมผัสแชมป์โลกประเภททีมผู้สร้างในปี 2019 และ 2020
Chung Euisun ประธานฮุนได มอเตอร์ คนปัจจุบัน ถือเป็นผู้สนับสนุนให้บริษัทเข้าร่วมในการแข่งขันรถยนต์ทางฝุ่นรายการนี้อย่างต่อเนื่อง โดยยํ้าว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เพียงแต่ต้องไขว่คว้าความสำเร็จมาให้ได้ ด้วยการใช้ทุกทรัพยากรที่มี
ขณะที่การแข่งในสนามล่าสุด ที่เกาะซาร์ดิเนีย เมืองโอลเบีย ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นสนามที่ 6 ของฤดูกาล ทีมฮุนได ยังสามารถคว้าชัยได้เป็นครั้งแรกในคลาส WRC Rally 1 (รุ่นสูงสุด)
หลังผ่านไป 19 สเตจ จากการแข่งขัน 3 วัน (2-4 มิ.ย.) บนเกาะซาร์ดิเนีย นักขับเบลเยี่ยม Thierry Neuville และผู้นำทาง Martijn Wydaeghe ควบ Hyundai i20 N Hybrid ทำเวลาได้ดีที่สุด ส่วนอันดับสองเป็นของเพื่อนร่วมทีม Esapekka Lappi และ Janne Ferm จากฟินด์แลนด์
นั่นหมายความว่า ฮุนไดได้ขึ้นโพเดียม WRC Rally 1 ในตำแหน่ง P1 และ P2 ส่วนอันดับ 3 เป็นของโตโยต้า
สำหรับรถในคลาส WRC Rally 1 ฮุนไดใช้ Hyundai i20 N Hybrid (เริ่มใช้ฤดูกาลแรก 2022) รถแฮตช์แบ็กขนาดกะทัดรัด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.6 ไดเรกอินเจกชัน เทอร์โบ เสริมการทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งรถสามารถรีดกำลังรวมได้สูงสุดถึง 500 แรงม้า
Hyundai i20 N Hybrid ปีนี้น่าจะมีข้อมูล และการพัฒนาให้ลงตัวมากขึ้น แต่คำถามคือจะดีพอที่จะสู้กับตัวเก็งและแชมป์เก่าอย่าง Toyota GR Yaris Hybrid ได้หรือไม่
สำหรับ WRC ฤดูกาล 2023 ยังเหลือการแข่งขันอีก 7 สนาม และสนามถัดไปจะลงไปคลุกฝุ่นกันที่เคนย่า ระหว่างวันที่ 22-25 มิถุนายน ก่อนที่เดือนพฤศจิกายนนี้ จะไปปิดฉากกันที่ประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ รถยนต์ฮุนไดได้รับการโมดิฟายต์เพิ่มเติมจากแผนก N พร้อมทำตลาดหลายรุ่น และเมืองไทย ฮุนได เตรียมนำเข้ามาทำตลาดช่วงปลายปีนี้เช่นกัน