แบรนด์เอ็มจี ปิดยอดขายในปี 2565 ประมาณ 2.8 หมื่นคัน โดยแบ่งออกเป็นยอดขายที่มาจาก EV 4,000 คัน และอื่นๆ 2.4 หมื่นคัน ขณะที่เป้าหมายในปี 2566 คาดว่าจะทำได้ 4 หมื่นคัน แบ่งเป็น EV 1 หมื่นคัน และรถรุ่นอื่นๆ 3 หมื่นคัน ทั้งนี้เอ็มจี ได้ตั้งเป้าที่จะขยับอันดับมาสู่ท็อป 5 จากเดิมปีที่ผ่านมาอยู่อันดับ 7 ของตลาด
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายในปีที่แล้ว หากไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนซัพพลาย ตัวเลขการขายอาจจะถึง 3.5 หมื่นคัน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปีนี้เริ่มดีขึ้น ปัญหาเรื่องการซัพพลายก็คาดว่าจะกลับมาเป็นปกติในครึ่งปีหลัง จึงทำให้มั่นใจว่า ยอดขายที่วางไว้น่าจะทำได้
นอกจากปัญหาเรื่องซัพพลายที่ได้รับการแก้ไขแล้ว ในส่วนของกลยุทธ์และแผนงานที่วางไว้ก็จะช่วยผลักดันให้ยอดขายเป็นไปตามเป้า โดยปีนี้จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่น เป็นโมเดลใหม่ 1 รุ่น รุ่นปรับโฉมอีก 1 รุ่น ปัจจุบันเอ็มจีมีรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำตลาดทั้งหมดได้แก่ MG ZS EV , MG 4 และ MG EP ซึ่ง 2 รุ่นแรกนั้นเปิดรับจองตามปกติ แต่ MG EP ได้ปิดรับจอง
"ต้นทุนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น MG EP ทั้งต้นทุนการผลิต -ค่าเงินต่างๆ แต่เรายังปรับราคาไม่ได้ เนื่องจากมีการทำข้อตกลงร่วมกันกับกรรมสรรพสามิต ซึ่งแนวทางการทำตลาดของบริษัท อาจจะปรับไปสู่การขายฟลีท ไดเรกต์เซลส์ให้กับผู้ประกอบการรถสาธารณะ แท็กซี่ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องศึกษาและพิจารณาในรายละเอียดกันอีกครั้ง ส่วนความพร้อมของโรงงานเราเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้น ปลายปีก็น่าจะพร้อม แต่เบื้องต้นก็ต้องดูเรื่องต้นทุนต่างๆคาดว่าถ้าจะพร้อมจริงๆก็น่าจะเป็นปีหน้า"
ขณะที่แผนงานด้านอื่นๆในปีนี้ จะขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า จากปัจจุบัน 158 แห่ง คาดว่าจะเพิ่มเป็น 200 แห่ง นอกจากนั้นแล้วจะเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 77 จังหวัด และจะเพิ่มศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง จากปัจจุบันที่มี 67 แห่ง ภายในปีนี้จะเพิ่มเป็น 80 แห่ง ในส่วนของรถใช้แล้ว MG APPROVED ที่มี 8 แห่งก็จะเพิ่มอีก 5-10 แห่ง
"มีอีกจุดที่เรากำลังเราจะเข้าไปพูดคุยกับคปภ.เนื่องจากก่อนหน้านั้นมีลูกค้านำรถเข้าไปอู่ซ่อมสีและตัวถังที่เป็นอู่นอก และมีการให้ลูกค้าเซ็นรับสภาพการรออะไหล่นาน ซึ่งปัญหาตรงนี้มันกระทบกับความรู้สึกของผู้บริโภคและกระทบกับภาพลักษณ์แบรนด์ ในส่วนของเราพยายามพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหา ปัจจุบันเอ็มจีเรามีศูนย์กระจายอะไหล่ 2 จุดได้แก่ที่โรงงานระยองและที่บางพลี"
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ คาดว่าจะเติบโต เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว การท่องเที่ยวเริ่มกลับมา โดยประเมินว่ายอดขายรถยนต์ในปีนี้จะอยู่ที่ 8.5 แสนคัน และยอดขาย EV ในปีนี้จะเติบโต 3-4 เท่าหรือประมาณ 3-4 หมื่นคัน