BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง

03 ก.ค. 2565 | 13:49 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ค. 2565 | 20:58 น.

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดงาน BMW Driving Challenge 2022 ทชวนลูกค้า, ดีลเลอร์ และสื่อมวลชน มาลองขับรถตระกูล M หลายรุ่น ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่ M Car อย่าง M4 Competition Coupe และเอสยูวี X4 M Competition ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์

เกือบ 10 ปีที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต เปิดดำเนินการ แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่บีเอ็มดับเบิลยู มาประทับรอยยางรถยนต์บนสนามแข่งที่ จ.บุรีรัมย์ แห่งนี้

 

ที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย อาจจะเคยจัดอีเวนต์ให้ MINI และมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad ที่สนามช้างฯ มาบ้าง แต่ปีนี้ในโอกาสที่สำนักแต่ง M ครบรอบ 50 ปี จะให้เขาเอารถยนต์ตัวแรง ไปลงสนามที่สเกลเล็กกว่านี้ คงไม่สมศักดิ์ศรีครับ

BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง

ย้อนไปในปี 1972 แผนก BMW Motorsport ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนารถแข่งให้ทีมบีเอ็มดับเบิลยูเข้าแข่งขันในรายการต่างๆ ในยุโรป โดยรุ่นที่สร้างชื่อเสียงมีทั้ง BMW 2002Tii, BMW 3.0 CS, BMW 3.0 CSL จากนั้นเริ่ม เป็นยุคของซีรีย์ 3 ประเดิมกับ E21 รวมถึงรถที่พัฒนาขึ้นใหม่สไตล์ซูเปอร์คาร์อย่าง M1


ปัจจุบันกลุ่มตัวแรงของบีเอ็ม ดับเบิลยู มีหลากหลายโมเดลหรือมีจำนวนรถให้เลือกมากที่สุด ตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา ทั้งตัวสุด M Car และระดับรองลงมาคือกลุ่ม M Performance โดยถ่ายทอดตำนาน และสมรรถนะจากสนามแข่ง มาสู่การขับขี่จริง บนท้องถนน

ล่าสุดกับอีเวนต์ BMW Driving Challenge 2022 ที่ชวนลูกค้า, ดีลเลอร์ และสื่อมวลชนมาลองขับรถตระกูล M หลายรุ่น ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่ M Car อย่าง M4 Competition Coupe และเอสยูวี X4 M Competition

BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง

รถทั้งสองรุ่นใช้ขุมพลังเดียวกันครับ แต่บุคลิกต่างกันพอสมควรตามโครงสร้างตัวถัง และการเซ็ตติ้งตามสไตล์ของสำนัก M โดยเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo เบนซิน 6 สูบเรียงขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 510 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูง สุด 650 นิวตันเมตร ที่ 2,750-5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด


สำหรับ M4 Competition อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.9 วินาที ส่วน X4 M Competition อยู่ ที่ 4.0 วินาที ซึ่งในบรรดารถที่บีเอ็มดับเบิลยูนำมาให้ลองที่ สนามช้างฯ วันนั้น ผมก็ชอบ M4 Competition Coupe มากที่สุดละครับ ด้วย DNA ของ M จัดมาเต็มขั้น ทั้งเรื่องโครงสร้างตัวถังนํ้าหนักเบา เรื่องการไหลผ่านของอากาศ การเพิ่มแรงกดในส่วนต่างๆรวมถึงการปรับปรุงช่วงล่างใหม่ แบบ Adaptive M ที่มาพร้อมโช้คอัพควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า

 

ส่วนเพลาหน้าและเพลาท้ายยืดหยุ่นด้วยการตั้งค่าตามหลักจลนศาสตร์ของรุ่น M ขณะที่พวงมาลัย M Servotronic ช่วยปรับนํ้าหนักและการควบคุมให้เหมาะสมกับความเร็วแต่ละช่วง ของการขับขี่ ส่วนหน้าที่ควบคุมฝูงม้า 510 ตัว ถูกจัดการด้วยเบรก M compound

 

M4 Competition Coupe เลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบ คือ ROAD, SPORT และ TRACK สำหรับการขับขี่ในสนามแข่ง ทั้งยังติดตั้งเทคโนโลยี M Drive Professional ที่ระบบ M Traction Control สามารถปรับการตอบสนองของระบบป้องกันล้อหมุนฟรีได้ 10 ระดับ ตามความต้องการของผู้ขับขี่ก่อนสั่งการให้ DSC ทำงานและยังครอบคลุมถึงระบบ M Drift Analyser ที่สามารถบันทึกและวิเคราะห์คะแนนความแม่นยำในการเข้าโค้งของผู้ขับขี่

แม้ M4 Competition Coupe ราคา 9.999 ล้านบาท ไม่ใช่รถที่แพงที่สุดในสนามช้างฯ วันนั้น (แพงสุดคือ BMW M760Li เครื่องยนต์ วี12 ที่ราคาเกือบ 13 ล้านบาท) แต่ผมสัมผัสได้ถึงสมรรถนะสุดโหด เล่นกับโค้งยาวๆ อัดความเร็วทางตรงหน้าเมนสแตนด์ได้ระดับหนึ่ง เรียกว่าขับมันที่สุดแล้วละครับ

BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง BMW ฉลอง 50 ปี M จับตัวแรงตะบันบนสนามแข่ง

งาน BMW Driving Challenge 2022 ยิ่งทำให้เราเข้าใจวิถีทรนงของค่ายรถจากแคว้นบาวาเรีย... จากเครื่องยนต์ 4 สูบ 6 สูบเรียง วี8 วี10 และ วี12 มีทั้งเพิ่งพาเทอร์โบและหายใจเอง ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาเกี่ยวข้องแต่ผมเชื่อว่าบีเอ็มดับเบิลยูจะรักษาคุณค่าที่สั่งสมมานาน 50 ปีของแผนก BMW Motorsport ภายใต้แบรนด์ M เอาไว้ได้