ปอร์เช่ จัดทัพใหญ่ลุยมอเตอร์สปอร์ต 2022
ในขณะที่มีกระแสข่าวว่า โฟลค์สวาเกน กรุ๊ป วางแผนจะส่งทีมเข้าไปแข่งขันใน Formula One ปี 2026 แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะใช้แบรนด์หรือทีมแข่งในนาม อาวดี้ หรือ ปอร์เช่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปอร์เช่ เอจี มีทีมแข่งและสนับสนุนทีมอิสระแข่งขันรถยนต์ทางเรียบหลายรายการอยู่แล้ว ล่าสุดประกาศความพร้อมกับการแข่งขันในรายการ Formula E (รถพลังงานไฟฟ้า 100% ล้อเปิด) และ World Endurance Championship
โอลิเวอร์ บลูม ประธานกรรมการบริหารของ ปอร์เช่ เอจี เปิดเผยว่า มอเตอร์สปอร์ต มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อกลยุทธ์การดำเนินงานของปอร์เช่มาโดยตลอดระยะเวลามากกว่า 70 ปี เราคุ้นเคยกับการใช้สนามแข่งความเร็วซึ่งเป็นเวทีในการทดสอบเทคโนโลยียานยนต์พร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทาย ทั้งในด้านของการแข่งขันและการบริหารงาน
สำหรับการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้า ABB FIA Formula E World Championship กำลังจะเริ่มฤดูกาลที่ 8 ในปี 2022 โดยทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนสำหรับการมุ่งมั่นในการคว้าตำแหน่งแชมป์ ด้วยรถแข่งปอร์เช่ 99X Electric และได้รับการคาดหมายให้ประสบความสำเร็จจากการเข้าร่วมการแข่งขัน ขับโดย Andre Lotterer (รถแข่งหมายเลข 36) และ Pascal Wehrlein (รถแข่งหมายเลข 94) ซึ่งฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นสนามแรกในวันที่ 28-29 มกราคมนี้ ที่เมือง Diriyah ประเทศซาอุดิอาระเบีย
นอกจากนี้ ปอร์เช่ยังเข้าแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ World Endurance Championship (FIA WEC) ประจำฤดูกาล 2022 ด้วยรถแข่งขันปอร์เช่ 911 อาร์เอส อาร์ (Porsche 911 RSR) พละกำลังระดับ 515 แรงม้าทั้ง 2 คันจะเข้าร่วมการแข่งขัน 6 สนาม ประเดิมสนามแรกที่ Sebring สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 18 มีนาคมนี้
ในฤดูกาลปี 2022 ปอร์เช่ยังสนับสนุนทีมแข่งอิสระลงแข่งขันรายการระดับโลก ด้วย 911 จีที3 อาร์ (Porsche GT3 R) ในรายการ ADAC GT Masters และ DTM
โดยทีมแข่งอิสระจะมีบทบาทสำคัญในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตรายการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Intercontinental GT Challenge, GT World Challenge, FIA WEC, European Le Mans Series และ Asian Le Mans Series ซึ่งทีมแข่งอิสระจะได้รับการสนับสนุนจากโรงงานปอร์เช่อย่างเต็มที่
“ปอร์เช่ เตรียมตัวรับมือกับรายการแข่งขันความเร็วในฤดูกาลปี 2022 ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน จากโปรแกรมการแข่งขันที่หลากหลาย เราได้ตัดสินใจที่จะสร้างสรรค์อนาคตให้เป็นไปในทิศทางที่เราต้องการ พร้อมกับความมั่นใจว่าเราจะยังคงรักษา DNA มอเตอร์สปอร์ตของเราเอาไว้ได้” นายโอลิเวอร์ บลูม กล่าว