พลังงานบริสุทธิ์ EA พัฒนารถบัส-บรรทุกพลังไฟฟ้า แบตเตอรี่อึดชาร์จเร็ว

08 ก.ค. 2564 | 14:43 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ค. 2564 | 22:11 น.
1.3 k

พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ขยับแผนพัฒนารถเพื่อการพาณิชย์ ปั้น eBUS รถบรรทุกไฟฟ้าเป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวใหม่ และวางโครงสร้างพื้นฐานโรงงานผลิตแบตเตอรี่-ผลิต EV ที่ จ.ฉะเชิงเทรา รองรับนักลงทุน พร้อมบริการครบวงจร

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) EA มุ่งพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ระบบการชาร์จพลังงานไฟฟ้า DC Ultra-Fast Charge ระดับ 300 กิโลวัตต์ (KW) รวมถึงรถบัสไฟฟ้า (eBus) ที่ใช้แบตเตอรี่ 250-350 กิโลวัตต์ชั่วโมง (KWH) ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 250 กม. รวมถึงรถบรรทุก-รถเทรลเลอร์ไฟฟ้าในอนาคต

 

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) กล่าวว่า EA กำลังทำ Complete Ultra-Fast Charge Platform เป็นบริษัทโซลูชันตั้งแต่แบตเตอรี่ ไปจนถึง End Product ที่จะเข้ามารองรับการบริการยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะ

พลังงานบริสุทธิ์ EA พัฒนารถบัส-บรรทุกพลังไฟฟ้า แบตเตอรี่อึดชาร์จเร็ว

บริษัทวางแผนทำโปรดักต์แชมเปี้ยน ทั้ง รถบัสไฟฟ้า (eBus) เรือไฟฟ้า (eFerry) เนื่องจากเป็นรถที่ใช้งานหนัก แม้จะมีข้อจำกัดคือราคาแพง แต่ยิ่งใช้จะยิ่งประหยัดพลังงาน และได้ต้นทุนคืนเร็ว รวมถึงช่วยแก้มลพิษ ทั้งยัง ไม่มีเจ้ายักษ์ใหญ่ที่เข้ามาทำตรงนี้ สามารถสร้างอุตสาหกรรมที่ยังไม่เคยมีบริษัทไทยเข้าไป  และอีกไม่นาน EA จะทำรถบรรทุก-เทรลเลอร์ไฟฟ้า ออกมา

 

“เรามุ่งไปที่ Commercial Vehicle ทั้งเรือไฟฟ้าและรถบัสไฟฟ้า เนื่องจากเป็นพาหนะที่มีความคุ้มค่าในการใช้แบตเตอรี่ เมื่อเทียบกับพลังงานน้ำมัน หรือมีการพูดถึงภาษีนำเข้า EV  0% จากจีนแต่นั่นเป็นในส่วนของกลุ่มรถยนต์นั่ง แต่สำหรับรถบัสไฟฟ้ายังโดนภาษีนำเข้า 40% เพราะฉะนั้นเรายังพอมีโอกาสในการสร้างตลาดตรงนี้ กับรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ราคาสามารถแข่งขันกับรถนำเข้าจากต่างประเทศได้”

บริษัทก่อสร้างโรงงานผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา (กำลังผลิต 3,000-5,000 คัน ต่อปี) มีการใช้เทคโนโลยีผลิตขั้นสูงระดับสเตทออฟอาร์ท เป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียน ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ EA ไม่อยากทำคนเดียว เราอยากจะเป็นเซอร์วิสให้กับทุกคน ดังนั้นจึงตั้งโรงงานอยู่ในเขตฟรีโซน สามารถนำเข้า-ส่งออกได้ง่ายขึ้น ด้วยกำลังการผลิตที่พร้อมตลอดจนพื้นที่และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

 

ปัจจุบัน ธุรกิจ EV ตื่นตัวมากขึ้น และมีเจ้าใหญ่เข้ามาแข่งขัน ทำให้บริษัทต้องปรับตัวเพื่อให้เติบโตไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเป็นเจ้าแรกที่เข้ามาทำธุรกิจแบตเตอรี่ ส่วนโรงงานอยู่ระหว่างก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว ซึ่งสิ่งที่อยากเห็นและสิ่งที่ทำในตอนนี้ หากเป็นไปได้ไม่อยากทำคนเดียว อยากเป็นเซอร์วิสให้ทุกคนสามารถเข้ามาร่วมทำด้วยกันได้ นอกจากนี้ ในระยะยาว Solid-State Battery จะเข้ามาในอนาคตนั้น ทางบริษัทอยู่ในกระบวนการที่จะนำมาผลิตในโรงงานที่ไทย และไม่ต้องลงทุนใหม่

 

“เราพร้อมทุกรูปแบบในการร่วมมือกับทุกคน เช่น ผู้ผลิตรถยนต์อยากมาตั้งโรงงานแบตเตอรี่ในไทย ไม่ต้องเริ่มสร้างจาก 0 แต่มาใช้โครงสร้างพื้นฐานที่เราเตรียมไว้ คุณสามารถทำแบตเตอรี่ได้ในราคาไม่แพง”นายสมโภชน์ กล่าวสรุป

 

ในส่วนธุรกิจ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EA  Anywhere ของบริษัทพลังงานมหานคร ในเครือ EA เปิดให้บริการแล้ว 417 สถานี รวมกว่า 1,633 หัวชาร์จ ในจำนวนนี้แบ่งเป็น Normal Charge (AC) 1,062 หัวชาร์จ และ Super Fast Charge (DC) 571 หัวชาร์จ