ไทรอัมพ์ แนะ 5 วิธีการเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทางรับวันหยุดยาว

12 เม.ย. 2564 | 16:41 น.

ไทรอัมพ์เอาใจสาวกบิ๊กไบค์ แนะ 5 วิธีตรวจเช็คสภาพรถด้วยตัวเองก่อนออกเดินทางในวันหยุดสงกรานต์ 2564 พร้อมเปิดโปรแกรมขยายบริการการช่วยเหลือฉุกเฉิน 1-2 ปี

ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว โดยเฉพาะ สงกรานต์2564 ที่กำลังจะมาถึงนี้ หลายคนมีแพลนเดินทางทั้งใกล้และไกล วันนี้ค่ายไทมอัมพ์ได้แนะนำ 5 วิธีการตรวจเช็คสภาพรถด้วยตัวเองก่อนออกเดินทาง ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ โดยเคล็ดลับ 5 จะมีอะไรบ้าง "ฐานเศรษฐกิจ"รวบรวมมานำเสนอดังต่อไปนี้


1.       เช็คระบบสัญญาณไฟ แตร และปุ่มกดต่าง ๆ

เช็คระบบสัญญาณไฟ แตร และปุ่มกดต่าง ๆ

เช็คระบบสัญญาณไฟ แตร และปุ่มกดต่าง ๆ


สัญญาณไฟและแตร เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน และระบบไฟสัญญาณเตือนต่าง ๆ เพื่อใช้ในการส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่ร่วมถนน ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟเบรก และแตร ผู้ขับขี่ควรทดลองเปิดใช้งานระบบไฟทุกส่วน เพื่อทดสอบว่าระบบไฟให้ความส่องสว่างที่เพียงพอ มองได้อย่างเห็นชัดเจนหรือไม่ รวมถึงทดลองบีบแตร และปุ่มกดต่าง ๆ บนตัวรถว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ หากมีส่วนใดที่บกพร่องหรือใช้งานไม่ได้ จะต้องเปลี่ยนหรือซ่อมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนออกเดินทาง

 

2.       เช็ควงล้อ ลมยาง และเนื้อยาง

เช็ควงล้อ ลมยาง และเนื้อยาง
ผู้ขับขี่จะต้องตรวจเช็ควงล้อว่ามีความคดหรือเบี้ยวหรือไม่ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่ได้ รวมถึงต้องตรวจเช็คความดันลมยาง ทั้งที่ล้อหน้าและล้อหลังให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ไม่แข็งหรืออ่อนเกินไป อีกทั้งต้องตรวจดูเนื้อยางว่ามีรอยแตกลายงาหรือรอยปริหรือไม่ ในขณะที่ร่องดอกยางต้องอยู่ในสภาพที่ไม่ดูโล้น และควรมีขนาดความลึกไม่น้อยกว่า 3 – 4 มิลลิเมตร
 

3.       ตรวจสอบระบบเบรก และระดับน้ำมันเบรก

ตรวจสอบระบบเบรก และระดับน้ำมันเบรก

ระบบหยุดรถ หรือเบรกเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในทุกการขับขี่ ผู้ขับขี่จะต้องเช็คการทำงานทั้งเบรกหน้าและเบรกหลัง โดยทดลองกำเบรกและสังเกตดูการหยุดรถซึ่งจะรถจะต้องสามารถหยุดได้ทันที นอกจากนี้ควรตรวจเช็คระดับน้ำมันเบรกให้อยู่ในระดับที่กำหนด และไม่มีการรั่วซึมตามสายและหัวน็อตด้วย

 

4.       ตรวจเช็คระบบขับเคลื่อน โดยเฉพาะโซ่

ตรวจเช็คระบบขับเคลื่อน โดยเฉพาะโซ่

โซ่มีความสำคัญต่อการขับขี่ไม่แพ้กันเพราะเป็นระบบส่งต่อกำลังของเครื่องยนต์ ซึ่งมีผลต่อความเร็วของรถจักรยานยนต์ อีกทั้งมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ควรป้องกันไม่ให้โซ่เกิดสนิม โดยสภาพการใช้งานของโซ่จะต้องไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป ซึ่งค่ามาตรฐานความตึงของโซ่ ควรอยู่ที่ประมาณ 25 - 30 มม. สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้เพียงแค่ลองดึงโซ่โดยใช้มือหรือของแข็ง และตรวจสอบดูว่าระยะฟรีที่สามารถดึงโซ่ออกมาได้ว่าอยู่ในระหว่างค่าที่กำหนดหรือไม่ หากระยะที่ดึงออกมามีค่าสูงหรือต่ำกว่าค่ามาตรฐาน จะต้องปรับตั้งค่าใหม่เพื่อความปลอดภัย

 

5.       ตรวจวัดระดับของเหลว

ตรวจวัดระดับของเหลว

 

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องใช้การตรวจสอบมากกว่าแค่การตรวจดูภายนอก ก็คือการตรวจวัดระดับของเหลว โดยผู้ขับขี่จะต้องตรวจเช็คระดับของเหลวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันรถ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก และระดับน้ำในหม้อน้ำ เพื่อให้เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่าง ๆ โดยก่อนออกเดินทางในช่วงวันหยุดยาว ควรนำเข้าศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนถ่ายของเหลวเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก ๆ 6 เดือน หรือตามที่คู่มือแนะนำ

ถือเป็น 5 วิธีการตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์ - บิ๊กไบค์ ด้วยตัวเอง แต่หากเหล่าไบค์เกอร์ทั้งหลายยังไม่มั่นใจก็สามารถตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์ที่ศูนย์บริการก่อนจะออกเดินทางกันได้ ซึ่งในส่วนของไทมอัมพ์เองนั้นก็พร้อมดูแล เพียงจองเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานไทรอัมพ์ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ โดยสามารถจองเข้ารับบริการแบบออนไลน์ (Online Booking Service) ล่วงหน้าได้


นอกจากนั้นแล้ว ไทมอัมพ์ยังได้เปิดตัว“โปรแกรมขยายบริการการช่วยเหลือฉุกเฉิน” (Triumph Roadside Assistance Extension Programme) เพิ่มเติมสูงสุดถึง 2 ปี โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองที่ต้องการเพิ่มได้ ประกอบด้วย


-โปรแกรมขยายบริการการช่วยเหลือฉุกเฉินแบบ 1 ปี ราคา 1,100 บาท 
-โปรแกรมขยายบริการการช่วยเหลือฉุกเฉินแบบ 2 ปี ราคา 1,980 บาท

จิราพร สำเร็จกิจเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์

นางสาวจิราพร สำเร็จกิจเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่าโปรแกรมดังกล่าวรวมความคุ้มครองสูงสุดที่ 4 ปี ให้ลูกค้าไทรอัมพ์ฯ ได้อุ่นใจในทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม