ฤดูร้อน 2566  เปิดแอร์ยังไงให้ค่าไฟไม่พุ่ง

10 ก.พ. 2566 | 05:43 น.
4.3 k

ฤดูร้อน 2566  ปลายกุมภาพันธ์ ถึงกลางพฤษภาคม 2566 เปิดแอร์ในช่วงฤดูร้อนยังไง ให้ค่าไฟไม่พุ่ง เย็นได้ ประหยัดด้วย

ฤดูร้อนปีนี้ ฤดูร้อน 2566 กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ไว้ว่า ประเทศไทย จะเข้าสู่ฤดูร้อนในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2566 โดยจะสามารถประกาศเข้าฤดูร้อนได้อย่างเป็นทางการก็ต่อเมื่อ หลายพื้นที่มีอากาศร้อนเกิน 35 องศาฯติดต่อกัน 

ว่าที่ร้อยตรีธนสิทธิ์ เอี่ยมอนันต์ชัย รองอธิบดี กรมอุตุนิยมวิทยา ฝ่ายวิชาการ ในฐานะโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา  เปิดเผยว่า ฤดูร้อนปี 2566 อาจจะร้อนจัดถึง 45 องศาเซลเซียส ได้ในบางวันของเดือนเมษายน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน  จะอยู่ที่ 40-43 องศาฯ และอาจมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น

อากาศร้อนขนาดนี้ การเปิดแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศเป็นวิธีคลายร้อนที่ใช้กันโดยทั่วไป แต่ในยุคค่าไฟฟ้าแพง ค่าแรงถูก ฐานเศรษฐกิจจะพาไปดูวิธีเปิดแอร์แบบเย็นได้ ประหยัดด้วย

วิธีใช้แอร์ แบบประหยัดไฟ

  • การเลือกแอร์

 เลือกแอร์ให้เหมาะกับขนาดห้อง ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากค่า BTU/hr (British Thermal Unit per hour) สูง แต่ห้องมีขนาดเล็ก จะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย ทำให้ภายในห้องมีความชื้นสูงส่ง ผู้ใช้งานรู้สึกไม่สบายตัว ราคาแพงเกินความจำเป็น หากBTU ต่ำ แต่ห้องมีขนาดใหญ่ การทำความเย็นก็จะช้าคอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเกินไป แอร์เสียเร็ว และทำให้ค่าไฟแพง

วิธีประหยัดไฟ

  • การตำแหน่งติดตั้งแอร์ และคอมเพรสเซอร์

เลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์ และคอมเพรสเซอร์ให้เหมาะสม โดยหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอร์ในทิศตะวันตก เพราะเมื่อแดดส่องในช่วงบ่าย จะทำให้ความร้อนสูง พร้อมติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ ในที่ร่ม และยกสูงเหนือพื้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้นและประหยัดพลังงาน

  • การเปิดแอร์พร้อมพัดลม

เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 26-27 องศา พร้อมเปิดพัดลม สามารถช่วยให้กินไฟลดลง และประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น เนื่องจากพัดลมจะช่วยเพิ่มความเร็วลม และช่วยกระจายความเย็นไปทั่วห้อง เมื่อลมจากพัดลมสัมผัสโดนผิวหนังร่างกายจะทำให้รู้สึกเย็นลงได้ถึง 2 องศา เมื่อเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่สูงขึ้น จะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่าการเปิดแอร์ที่ 23-24 องศาฯ ได้ถึง 10%

การเปิดแอร์พร้อมพัดลม

  • ล้างแอร์

การล้างแอร์ ทำให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งความเย็น และแรงลม ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากถึง 10% จึงควรล้างแอร์ทุก 6 เดือน เพื่อล้างฝุ่นละออง สิ่งสกปรกสะสม

การล้างแอร์