เริ่มแล้ว “ด็อก โชว์ 2022” น้องหมาแห่ร่วมงานวันแรกสุดคึกคัก

กลับมาอีกครั้งกับ มหกรรมแสดงสินค้าและบริการเกี่ยวกับสุนัขครบวงจรใหญ่ที่สุดในอาเซียน “สมาร์ทฮาร์ท พรีเซนต์ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ด็อก โชว์ 2022”  ที่ปีนี้จัดอย่างอลังการ พร้อมฉลองครบรอบปีที่ 20 ภายใต้ธีม 20th Year Dog Show Reunion “หวนรำลึกภาพในความทรงจำอันแสนสุข”

 

พร้อมกับการเปิดประเทศหลังวิกฤตโควิด-19 ซาลง ทำให้มีผู้สนใจส่งสุนัขเข้าประกวดระดับนานาชาติจาก 15 ประเทศมากกว่า 4,500 ตัว ตลอด 4 วันจัดงานระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2565 ณ อาคาร 5-6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

 

“กุลวดี  จินตวร” ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า การจัดงาน สมาร์ทฮาร์ท พรีเซนต์ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ด็อก โชว์ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย), สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย โดยมีเพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารสุนัข “สมาร์ทฮาร์ท” เป็นผู้สนับสนุนหลัก

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย โดยเฉพาะตลาดสุนัข อีกทั้งเปิดโอกาสให้เหล่าบรรดาผู้เลี้ยงสุนัขและสุนัขเองได้พบปะสังคมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ดีๆ ซึ่งกัน จนได้รับการยอมรับว่าใหญ่อันดับ 1 ของประเทศไทย และน่าจะใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

 

อีกทั้งเป็นการตอบรับเทรนด์ของผู้เลี้ยงที่ให้ความสำคัญกับน้องหมามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีสถานการณ์โควิด-19 มีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Pet Humanization กระแสนี้ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน หลายๆ คนหันมาเลี้ยงสุนัขเป็นเพื่อนแก้เหงา สุนัขกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว การได้ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านนานขึ้นก็ยิ่งก่อให้เกิดความผูกพันกับสัตว์เลี้ยง

สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย

• การประกวดสุนัขสวยงามนานาชาติทุกสายพันธุ์ชิงแชมป์ประเทศไทย
• การแข่งขันสุนัขจอมพลังอเมริกันพิทบูลลากน้ำหนักชิงแชมป์ประเทศไทย
• การจัดสัมมนาเชิงวิชาการ สำหรับสัตวแพทย์มือใหม่ในหัวข้อ “การจัดการการเงิน และเวชภัณฑ์ทางการสัตวแพทย์”
• โครงการช่วยเหลือสังคมให้ผู้สนใจได้รับเลี้ยงสุนัข (Adoption Zone) และรายได้จากการขายบัตรเข้าชมงาน 20 บาทต่อท่าน (เด็กและสุนัขเข้างานฟรี) สนับสนุนโครงการ 1 บาทเพื่อเจ้าตูบผู้หิวโหย

นอกจากนี้ยังมีมินิคอนเสิร์ตจากขวัญใจชาวโซเชียล น้องติวเตอร์ นักร้องเปิดหมวกจากเยาวราช พบปะกับเหล่าดารา อาทิ คุณวิลลี่ แมคอินทอช, เสนาหอย ฯลฯ  พลาดไม่ได้กับกองทัพสินค้าและบริการเพื่อสุนัขคุณภาพ จากผู้ประกอบการกว่า 200 ราย ที่นำสินค้าหลากหลายแบรนด์ชั้นนำมาจำหน่ายลดราคาสูงสุดถึง 70%

 

รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีช่วยในการดูแลสุนัขสำหรับคนรุ่นใหม่ รวมถึงกิจกรรมถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวพลเมืองสุนัข การให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพสัตว์เลี้ยง บริการฉีดวัคซีนฟรี บริการรับหิ้วสำหรับสั่งซื้อสินค้าในงานแบบออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมยังมีสิทธิ์ลุ้นรับทองคำน้ำหนัก 1 บาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ามากกว่า 7 หมื่นบาท

อย่างไรก็ตาม มั่นใจผลตอบรับงานปีนี้ดีเช่นเดิม คาดว่ายอดผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน และสามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายในงานไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 4 วัน ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ อาคาร 5-6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

 

“วนิดา บุษกรนันท์” นายกสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันสมาคมมีสมาชิกราว 50,000 คน และมีสุนัขพันธุ์ไทย หลังอาน - บางแก้ว ประมาณ 20,000 ตัว และแนวโน้มความต้องการสุนัขพันธุ์ไทยทั้งในเมืองไทยและต่างชาติ มียอดเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ทุกปี

สำหรับงาน Dog Show ปีนี้ทางสมาคมฯ ได้สนับสนุนกิจกรรมการแข่งขันและการประกวดหลักๆ ในประเภท Dog Agility, Dog Grooming ซึ่งจากข้อมูลมีสุนัขที่เข้าร่วมประกวดสุนัขสวยงามชิงแชมป์นานาชาติประมาณ 4,500 ตัว และชิงแชมป์ประเทศไทยประมาณ 15,000 ตัว จากตัวแทน 15 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์, เกาหลี ,จีน ,เวียดนาม ,อินโดนีเซีย , มาเลเซีย,รัสเซีย,อินเดีย, ปากีสถาน  ฯลฯ

 

จากความสำเร็จของงาน Dog Show ที่ผ่านมา ซึ่งมีความสำเร็จอย่างมาก วัดได้จากจำนวนสุนัขที่เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้น 10% ในทุกๆ ปี ทำให้งาน Thailand Dog Show เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ทั้งภูมิภาคเอเชีย, ยุโรป, อเมริกา, แคนาดา, ทางสมาคมฯ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานในทุกครั้ง

“วรพัทธ์ อัครกุลไกรเลิศ” นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง (TPIA) กล่าวถึงทิศทางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง ปี 2565 มีโอกาสการเติบโตค่อนข้างดี ใกล้เคียงปี 2564 ที่เติบโตจากปี 2563 ประมาณ 7 % โดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 51,800 ล้านบาท สำหรับกลุ่มของสุนัขปี 2565 เชื่อว่ามีการเลี้ยงมากขึ้น แต่ยังไม่มากที่สุดถ้าเทียบกับการเติบโตของแมว

 

“สุนัขก็ยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงรวมมากที่สุด รองลงมาคือแมว เชื่อว่าโควิด-19 ปีนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง เพราะประเทศไทยมีการเปิดเมืองหรือเปิดประเทศ และธุรกิจต่างๆ ก็จะได้เปิดบริการเต็มรูปแบบมากขึ้น ผู้คนมีรายได้ก็จะมีกำลังจับจ่ายใช้สอยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงสูงขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสำหรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เช่น อาหารก็จะมี grain free, ขนม freeze dry และที่ให้อาหารสอัตโนมัติ โดยใช้มือถือสั่งงาน เป็นต้น”