'MC GROUP' ปักหมุดช็อปใหม่ในพม่า! ปูพรมสู่เส้นทางการเป็น Asia Brands

25 ก.พ. 2561 | 13:16 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.พ. 2561 | 20:16 น.
569
0201

“ท่ามกลางความเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย เราไม่หยุดนิ่งที่จะปรับและเปลี่ยน ทั้งการเริ่มสร้างความร่วมมือเพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคอย่างทั่วถึงในทุกช่องทาง การนำเอาการตลาดแบบออนไลน์มาเสริมในการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่ขายแต่เพียงจุดขาย การสร้างวัฒนธรรมองค์กรจากธุรกิจครอบครัวให้กลายเป็นบริษัทมหาชน การทำลายกรอบความคิดแบบเดิม ๆ เพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ในการเป็นเอเชียแบรนด์หรือผู้นำค้าปลีกสินค้าเครื่องแต่งกายและสินค้าไลฟ์สไตล์” คุณสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางของธุรกิจอย่างเป็นทางการในงานแถลงข่าวภาพรวมและกลยุทธ์ของแม็คกรุ๊ป ปี 2561

นอกจากนั้น ในฐานะแบรนด์เครื่องแต่งกายที่ผูกพันกับคนไทยมาอย่างยาวนาน ยังให้ความสำคัญกับการนำระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management มาผนวกใช้ในการสมัครสมาชิกภายใต้โปรแกรม ‘MC Club’ ซึ่งแต่เดิมระบบสมาชิกหรือกลุ่มลูกค้าของแม็คกรุ๊ปตามจุดขายต่าง ๆ เป็นเพียงสมุดจด โดยการนำเอา CRM เข้ามานั้น ตั้งเป้าขยายฐานสมาชิกเพิ่มเป็น 5 แสนราย ในปี 2018 โดยอ้างอิงได้จากจุดขายที่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นจำนวน 20 คนต่อสาขาในทุกวัน

คุณบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ‘แม็คกรุ๊ป’ ขยายความเพิ่มเติมว่า MC Club จะเข้ามาเติมเต็มการตอบแทนสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อาทิ นำคะแนนสะสมมาแลกเป็นส่วนลดเงินสด หรือจะเป็นการลุ้นรับสินค้าในร้านแม็คยีนส์ฟรี ทุกเดือนตลอดปี ในทุกกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Denim หรือผ้ายีนส์, กลุ่ม Non-Denim หรือเครื่องแต่งกายท่อนบนจำพวกเสื้อ เสื้อคลุม กลุ่มเครื่องประดับอย่างนาฬิกา มีสัดส่วน และกลุ่มผลิตภัณฑ์จำพวก Health & Beauty อย่างสกินแคร์ มีการพัฒนาสินค้าบนกรอบพื้นฐานการเป็น Trend Center หรือตอบโจทย์ความทันสมัยของยุคสมัยด้วยความเท่าทัน


26-27-3337-04

ไม่เพียงแต่ประเทศไทย ‘แม็คกรุ๊ป’ ได้ขยายตลาดไปยังต่างประเทศและหนึ่งในคู่ค้าที่สำคัญ คือ เมียนมา โดยคุณจรินธร วิมลเกียรติศักดิ์ ผู้บริหารแผนกธุรกิจต่างประเทศ ฉายภาพให้ฟังในมุมนี้ได้อย่างน่าสนใจ ว่า สินค้าเครื่องแต่งกายที่นำเข้าในเมียนมาส่วนใหญ่มาจากไทย จีน สิงคโปร์ และเกาหลี โดยในปีที่ผ่านมา ชาวเมียนมามีการใช้จ่ายสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายอยู่ที่ 8% ต่อหัวหรือ 3,000 บาทต่อปี ซึ่งทาง ‘แม็คกรุ๊ป’ คาดการณ์ว่า ในปี 2561 นี้ ชาวเมียนมาจะใช้จ่ายมากขึ้นประมาณ 10% หรือ 3,300 บาทต่อปีต่อหัว โดยมีปัจจัยบวกมาจากการขยายตัวของศูนย์การค้าใหม่ ๆ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ รวมทั้งออนไลน์และแฟชั่นต่าง ๆ

ในระยะแรกแม้จะเจอกับคำถามที่ว่า ชาวเมียนมาใส่โสร่งตลาดเครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะกางเกงยีนส์จะก้าวผ่านไปได้หรือไม่ แต่ความจริงแล้ว การไหลเททางวัฒนธรรมด้านแฟชั่นได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้กลุ่มลูกค้าทุกประเภทหันมาแต่งกายและสวมใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยีนส์ และสินค้าไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ที่มากขึ้น ทำให้ ‘แม็คกรุ๊ป’ ได้เข้าไปขยายตลาดที่เมียนมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2555 และทำการตลาดอย่างเต็มที่ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมของธุรกิจแม็คยีนส์ในประเทศเมียนมาได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงระดับสูงในเมืองเศรษฐกิจ อย่าง ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเมืองรอง อย่าง ตองยี และมิตจีนา รวมทั้งหมด 8 จุดขาย ด้านการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค แม็คกรุ๊ปมุ่งเน้นใน 3 มิติ คือ กระตุ้นยอดขายผ่านการจัดทำโปรโมชันการสร้างความปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าและการจัดกิจกรรม


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

โดยเป้าหมายหลักของ MC GROUP ในปี 2561 นี้ คือ ยอดขายที่เติบโตอย่างน้อย 10% โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการพัฒนาระบบ CRM การนำเอา Digital Marketing มาเพิ่มช่องทางการสื่อสารผ่านเว็บไซต์และช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ ไม่เพียงเท่านั้น ยังขยายพื้นที่จำหน่ายเพิ่มเติมประมาณ 3,000 ตร.ม. หรือ 30 จุดขาย จาก 900 จุดขายที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ ยังเสริมหมวดหมู่สินค้าด้านผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมทั้งประเภทสินค้า Aromatique Active หรือเครื่องหอมต่าง ๆ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ Active Wear ที่กำลังได้รับความนิยม คาดว่า ภายในปีนี้ประมาณไตรมาสที่ 3 จะเปิดตัวแบรนด์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Active Wear และพร้อมส่งเสริมการขายผ่าน Omni Channel เว็บไซต์แม็คช็อป เพื่อกระตุ้นการเติบโตของจุดขายให้เกิดความครบวงจร ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

อย่างไรก็ดี นอกจากเมียนมา แผนการตลาดในต่างประเทศของแม็คกรุ๊ปได้ขยายธุรกิจเข้าไปสู่ประเทศในตะวันออกกลาง ผ่านการเปิดร้านแม็คยีนส์ในประเทศอิหร่าน 2 สาขา ที่ Kish Island แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศอิหร่าน และอยู่ระหว่างเพิ่มจุดขายใหม่อีก 2 สาขา ที่กรุงเตหะราน ที่อิหร่าน ในไตรมาสแรกปี 2561 เนื่องจากอิหร่านมีประชากรที่มากและรายได้เฉลี่ยในหัวเมืองใหญ่อยู่ในระดับสูง ที่สำคัญการแต่งกายยังได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมฝั่งยุโรปอีกด้วย

เพราะความสนุกของการแข่งขัน คือ ความตื่นตัวและไม่หยุดนิ่งจากความสำเร็จที่ปรากฏเฉพาะในปัจจุบัน นี่คือ หนึ่งแบรนด์ที่กำลังก้าวสู่ความนิยมระดับเอเชีย ‘MC GROUP’


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,337 วันที่ 4-7 ก.พ. 2561 หน้า 27

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว