งานเข้า ! 2 “เจ้าสัวเจริญ” กับ “เจ้าสัวเปรมชัย” เหตุนั่งร้านถล่ม

17 ก.พ. 2565 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.พ. 2565 | 16:21 น.
62.8 k

2 เจ้าสัวงานเข้า หลังจากเกิดเหตุการณ์นั่งร้านโครงการหรูถล่ม "โครงการวันแบงค็อก" ที่มี อิตาเลียนไทย ของ "เจ้าสัวเปรมชัย" รับเหมาก่อสร้าง

เหตุ นั่งร้านถล่มโครงการก่อสร้างโรงแรมหรู ภายใน "โครงการวันแบงค็อก" เนื้อที่104ไร่ อาณาจักร “เจ้าสัวเจริญ” เจริญ สิริวัฒนภักดี ฉายาราชาเทคโอเว่อร์ของเมืองไทย หนึ่งใน 10 มหาเศรษฐีไทย ร่วงถล่มทับคนงานเสียชีวิตจำนวน 3 ราย บาดเจ็บ 4 คน บริเวณถนนพระราม4 ตัดถนนวิทยุเขตปทุมวัน สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็นไม่น้อย  

ล่าสุด ตำรวจ สน.ลุมพินี อยู่ระหว่างเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน พร้อมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) สำนักงานเขตปทุมวันฝ่ายโยธา และตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เกี่ยวข้องทำให้มีคนเสียชีวิต เข้าข่ายความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่

สำหรับโครงการนี้มี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) ของ “เจ้าสัวเปรมชัย” เปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการบริษัท  เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง (ผู้รับเหมาชั้นต้น) ได้ออกหนังสือชี้แจง โดยระบุว่า เสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่คนงานเสียชีวิต ยืนยันว่าจะเยียวยาและดูแลครอบครัวอย่างเต็มกำลัง

งานเข้า ! 2 “เจ้าสัวเจริญ” กับ “เจ้าสัวเปรมชัย” เหตุนั่งร้านถล่ม

 

โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) เป็นการลงทุนของบริษัทในเครือ “ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย)” ร่วมทุนกับ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย)  ในเครือของ “เจ้าสัวเจริญ” รวบรวมความเป็น “ที่สุด” ระดับประเทศ  เพื่อเป็นแลนด์มาร์คระดับโลก

 

ตั้งแต่ “ที่ดิน” ก่อสร้างโครงการเป็นทำเลทอง บริเวณหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 เนื้อที่ 104 ไร่ ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ให้สิทธิ์เช่าที่ดิน 60 ปี มูลค่าการลงทุนโครงการ 1.2 แสนล้านบาท พื้นที่รวม 1.83 ล้านตร.ม. เพื่อพัฒนาเป็นโครงการอสังหาฯ รูปแบบ “มิกซ์ยูสใหญ่ที่สุด” ในประเทศไทย

“เจ้าสัวเจริญ” เจริญ สิริวัฒนภักดี

 

เจอแบบนี้เรียกว่างานเข้าก็คงไม่ผิด แต่เอ๊ะ หรือจะเป็นอิทธิพลจากปีชงของ เจ้าสัวเจริญ ? 

 

เพราะก่อนหน้านี้ “เครือไทยโฮลดิ้ง” เจ้าสัวเจริญ ขาดทุนยับจากกรมธรรม์โควิด ด้วยพิษโควิด “เจอจ่ายจบ” นั่นก็คือ บมจ.อาคเนย์ประกันภัย และ บมจ.ไทยประกันภัย โดย “อาคเนย์ประกันภัย” เจอมรสุมแรก หลัง เดือน ก.ย.ปีก่อน ช่วงโควิดระบาด ยอดเคลมประกันโควิดพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แถมจ่ายเคลมล่าช้า ผู้เอาประกันปิดล้อมหน้าบริษัท จนต้องขอเลิกกิจการ เรียกว่าสะเทือนทั้งวงการด้วยผู้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างและมีวิธีขอปิดกิจการที่ไม่ธรรมดา ทำเอาผู้เอาประกันตั้งคำถามว่า “แบบนี้ก็ได้เหรอ ? ”

 

ส่วน “เจ้าสัวเปรมชัย”  ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)  ที่เรียกว่า เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการก่อสร้างที่มีโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ รถไฟทางคู่ระยะที่ 2, รถไฟไทย-จีน, รถไฟสายสีม่วง ส้ม แดง, ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3, รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, โครงการบริหารจัดการน้ำ นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในต่างประเทศอีกหลายประเทศ

 

ต้องสิ้นอิสรภาพ หลังศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา  ใน “คดีเสือดำ” เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2561 นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและควบคุมตัวนายเปรมชัยและคณะ หลังได้รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในบริเวณห้วยปะชิ การตรวจค้นพบอาวุธปืนและเนื้อสัตว์ป่าชำแหละแช่เย็นไว้ รวมถึงซากเสือดำ

“เจ้าสัวเปรมชัย” เปรมชัย กรรณสูต "คดีเสือดำ"

การต่อสู้ต่อในคดีนี้ล่วงเลยมาจนถึง 8 ธ.ค. 2563 วันชี้ชะตา ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยให้คงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 3 คน ตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา แต่ให้ยกฟ้องในฐานความผิดฐานร่วมกันรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่า เนื่องจากมีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 55 ทำให้ยกเลิกฐานความผิดนี้ไป

 

ส่งผลทำให้ บริษัท แต่งตั้ง นายธรณิศ กรรณสูต บุตรชายคนเล็กของนายเปรมชัย ตำแหน่งกรรมการ รองประธานบริหารอาวุโสและผู้ช่วยประธานบริหาร ให้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานบริหาร ขณะที่นางคณิตา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัย ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม อยากให้นายเปรมชัยอยู่ใกล้แพทย์ในโรงพยาบาล เพราะนายเปรมชัยมีปัญหาด้านสุขภาพ เป็นโรคเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และเพิ่งผ่าตัดตามา โดยเฉพาะโรคเบาหวานที่เป็นหนักที่สุด