ศ.นพ.ศุภฤกษ์ ดิษยบุตร ประธานคณะอนุกรรมการโรคปอดอินเตอร์สติเชียลและโรคปอดจากการทำงานและสิ่งแวดล้อม (ILD Assembly) ภายใต้สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า โรคปอดเป็นพังผืด (Pulmonary fibrosis) เป็นโรคหายาก หนึ่งในกลุ่มโรคปอดอินเตอร์สติเชียล (interstitial lung disease หรือ ILD) ที่เกิดพังผืดขึ้นที่เนื้อเยื่อปอด ซึ่งอยู่ระหว่างชั้นถุงลมและหลอดเลือดในปอด ให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนทำได้ยาก
ทั้งนี้ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อย รู้สึกหายใจไม่อิ่ม โดยบริเวณเนื้อเยื่อปอดที่มีพังผืดเกิดขึ้นแล้วจะไม่สามารถกลับคืนมาได้อีก และเมื่อตัวโรคพัฒนาเข้าสู่ภาวะลุกลามจะมีความรุนแรงเทียบเท่ากับโรคมะเร็ง ในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือรักษา มักเสียชีวิตภายใน 3-4 ปี
ปัจจุบันมีความชุกประมาณ 74.3 ถึง 76 รายต่อประชากร 100,000 คน โดย 13-40% ของผู้ป่วยในกลุ่มนี้ จะมีโอกาสพัฒนาเป็นภาวะปอดเป็นพังผืดชนิดลุกลามได้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์และคอยติดตามสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ดี ล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่คณะอนุกรรมการฯ ได้ดำเนินการร่วมกับมูลนิธิรักษ์ข้อและภาคีเครือข่ายจัดงานรักษ์ข้อดูแลปอดและอ้อมกอดแห่งรัก เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป โดยเน้นที่โรคพังพืดในปอดที่มีสาเหตุมาจากโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งพบค่อนข้างบ่อย เช่น โรคหนังแข็ง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคกล้ามเนื้ออักเสบ โรคเอสแอลอี
ซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการอาการทางปอด ไม่ว่าจะเป็นปอดอักเสบ หรือปอดมีพังผืด จะมีผลต่อคุณภาพชีวิต ผู้ป่วยและญาติจึงควรมีความตระหนักรู้เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในระยะแรกของโรคเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต ชะลอการสูญเสียของสมรรถภาพปอดในอนาคต
รศ.พญ.ประภาพร พิสิษฐ์กุล อายุรแพทย์โรคข้อและรูมาติซั่ม โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า งานดังกล่าวเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องโรคปอดเป็นพังผืดให้แก่ผู้ป่วยและญาติ ให้สามารถสังเกตตัวเองและเข้าสู่การรักษาได้เร็ว โรคปอดเป็นพังผืดมีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตนเองหรือโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โดยเฉพาะ ผู้ป่วยโรคหนังแข็ง จำนวนมากกว่า 50% มีโอกาสเกิดพังผืดในปอดค่อนข้างเร็ว แนะนำให้แพทย์วินิจฉัยโรคปอดเป็นพังผืดแต่เนิ่นๆ
และให้การรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมไม่ให้ปอดเป็นพังผืดลุกลามมากขึ้น เพราะจะทำให้ผู้ป่วยเหนื่อยง่ายมากขึ้นและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้ โรคปอดเป็นพังผืดเป็นโรคใกล้ตัวและทุกคนมีโอกาสเป็นได้ เนื่องจากสภาพอากาศและมลภาวะในปัจจุบันส่งผลต่อสุขภาพทำให้เป็นโรคแพ้ภูมิตนเอง และมีโอกาสทำให้ปอดเป็นพังผืดได้มากขึ้นด้วย จึงอยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพและมีความตระหนักถึงโรคปอดเป็นพังผืดด้วยเช่นกัน
โรคปอดเป็นพังผืด มีความซับซ้อน และยากต่อการวินิจฉัย เนื่องจากอาการคล้ายโรคปอดอื่น ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการรักษา อาการโรคที่บ่งชี้ ได้แก่ ไอเรื้อรัง หรือ หอบเหนื่อยมานานกว่า 2 เดือน โดยหาสาเหตุอื่นไม่พบ เมื่อฟังเสียงปอดพบเสียงผิดปกติที่ชายปอดทั้ง 2 ข้าง คล้ายเสียงลอกแถบตีนตุ๊กแก และออกซิเจนปลายนิ้วต่ำเมื่อออกกำลัง
หากสงสัยว่ามีอาการของโรคปอดเป็นพังผืดให้รีบปรึกษาแพทย์ใกล้บ้าน เพื่อซักประวัติตรวจร่างกาย และส่งตรวจเอกซเรย์ปอดเบื้องต้น และเมื่อแพทย์สงสัยว่าเป็นโรคปอดเป็นพังผืด จะส่งต่อไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น CT Scan, การทดสอบสมรรถภาพปอด หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะสามารถชะลอการดำเนินโรคและมีชีวิตได้นานขึ้น ปัจจุบันมียาต้านพังผืดที่ช่วยชะลอการดำเนินของโรคให้ช้าลง และลดโอกาสเกิดอาการกำเริบฉับพลัน