สธ. เดินหน้าผสาน แพทย์แผนไทย-แผนปัจจุบัน ลดนำเข้ายาต่างชาติ

24 ต.ค. 2567 | 19:20 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ต.ค. 2567 | 19:21 น.

ที่ปรึกษา รมว.สธ. เผยนโยบายสาธารณสุขผนวกศาสตร์การแพทย์แผนไทยเข้ากับการแพทย์สมัยใหม่ เร่งพัฒนาวิจัยสมุนไพรไทยตามมาตรฐานสากล หวังลดการพึ่งพายาต่างชาติ พร้อมผลักดันเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ รองรับการเบิกจ่ายในระบบประกันสุขภาพ

24 ตุลาคม 2567 นายโฆสิต สุวินิจจิต คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากนโยบายคณะรัฐมนตรี และกระทรวงสาธารณสุข มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ (Care and Wellness Economy) และบริการทางการแพทย์ (Medical Hub) ยกระดับระบบสาธารณสุขไทยสู่แนวหน้า ควบคู่ไปกับการผลักดันภูมิปัญญาไทยไปสู่ระดับสากล ส่งเสริมการใช้แพทย์แผนไทย และสมุนไพรไทยร่วมกับการแพทย์แผนตะวันตก จึงเป็นโอกาสที่ดียิ่งในการบูรณาการงานร่วมกันของ 3 กรม ประกอบด้วย 

1.กรมการแพทย์ ที่มีภารกิจพัฒนาวิชาการด้านการรักษาฟื้นฟูที่มีพื้นฐานจากการแพทย์แผนตะวันตก มีบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านโรคต่าง ๆ และมีบริการทางการแพทย์แผนตะวันตก 

นายโฆสิต สุวินิจจิต คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

2.กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่เป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และการแพทย์พื้นบ้านไทย 

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อันมีภารกิจในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเพื่อควบคุมคุณภาพ ประสิทธิภาพ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสมุนไพร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย ในสถานพยาบาลทั่วไปตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ โดยผสมผสานไปกับระบบบริการทางการแพทย์แผนตะวันตก

ภายใต้การควบคุมคุณภาพ และการสร้างความเชื่อมั่นแก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยผู้มารับบริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลดังกล่าว  และเป็นการเพิ่มทางเลือกในการรักษาของประชาชน ทั้งนี้ จะนำเสนอผลการประชุมให้รัฐมนตรีพิจารณาต่อไป  

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กรมการแพทย์ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุขในการส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทยและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ   โดยสนับสนุนให้มีการใช้ยาสมุนไพรตามบัญชียาหลักและการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์แผนไทยในสถานพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ร่วมกับการแพทย์แผนตะวันตก และวางแผนจัดทำแนวทางการใช้ยาจากสมุนไพรไทยในกลุ่มอาการต่าง ๆ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์

ตามความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellence: COE) ด้านต่าง ๆ เช่น ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคมะเร็ง เป็นการศึกษาการใช้ประโยชน์ของสมุนไพรในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งมีทั้งมิติด้านการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและสมุนไพรบางชนิด เช่น ทองพันชั่ง เหงือกปลาหมอ กัญชา ฯลฯ

ในขั้นตอนการทดลองในหลอดทดลองและในสัตว์ พบว่า มีฤทธิ์ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพิ่มการทำลายเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนางานวิจัยทางคลินิกเพื่อขยายผลไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยทางคลินิกและผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ต่อไป โรคทางระบบประสาท โดยสารสกัดกัญชาชนิดซีบีดีสูงที่ผลิตในประเทศไทยแบบมาตรฐาน(องค์การเภสัชกรรม) สามารถรักษาโรคลมชักรักษายากในเด็กเทียบเท่ากับยาซีบีดีของต่างประเทศ แต่ต้นทุนของไทยต่ำกว่าประมาณ 6-8 เท่า

สธ. เดินหน้าผสาน แพทย์แผนไทย-แผนปัจจุบัน ลดนำเข้ายาต่างชาติ

พร้อมประยุกต์ใช้สมุนไพรในการรักษาโรคผิวหนัง เป็นต้น เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษา ทดแทนและลดการนำเข้ายาแผนตะวันตกบางตัว เพิ่มจำนวนการใช้ยาจากสมุนไพรไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย นอกจากนี้จะมีการศึกษาวิจัยสารสะกัดสมุนไพรไทยในการนำมาใช้ในการรักษาโรคตามกระบวนการวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า จากการบูรณาการของทั้ง 3 หน่วยงานในครั้งนี้ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกใน 2 ประเด็นหลัก คือ 

1) การเพิ่มการใช้ยาสมุนไพรในระบบบริการสุขภาพของประเทศ

2) วางรากฐาน สร้างความเชื่อมั่นด้วยการวิจัยประสิทธิผลและความปลอดภัย ของสมุนไพร การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

ล่าสุด กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์ และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ร่วมดำเนินการวิจัย clinical trial ตามมาตรฐานสากลศึกษาวิจัย 4 กลุ่มโรค ได้แก่                       
1) ประเด็นวิจัย มะเร็ง 

2) ประเด็นวิจัย NCD : เบาหวาน 

3) ประเด็นวิจัยสะเก็ดเงิน 

4) ประเด็นวิจัยหลอดเลือดสมอง โดย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ตั้งเป้าหมายผลักดันผลงานวิจัยเข้าสู่แนวทางเวชปฏิบัติการรักษาโรค และและสร้างความเชื่อมั่นในการใช้ยาไทย สมุนไพรไทย นวดไทย ในระบบบริการสุขภาพของประเทศ  

สธ. เดินหน้าผสาน แพทย์แผนไทย-แผนปัจจุบัน ลดนำเข้ายาต่างชาติ

ในปีงบประมาณ 2568 นี้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมผลักดันเพิ่มรายการยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ และการเบิกจ่าย รวมทั้งสนับสนุนการบริการทางการแพทย์ Service Plan เข้าสู่หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อทดแทนยาแผนปัจจุบัน ในหน่วยงานสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ

พร้อมจัดทำคู่มือเพื่อส่งเสริมการใช้รายการยาสมุนไพรเพื่อนำไปใช้ ในการดูแลผู้ป่วยเพิ่มการใช้ยาสมุนไพรในระบบบริการสุขภาพ ของประเทศ ใน 10 กลุ่มอาการของโรคที่พบบ่อย (Common Disease)กับการใช้ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ตั้งเป้าหมายเพิ่มการใช้ยาสมุนไพรในระบบสุขภาพบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ภายใน 5 ปี ประกอบด้วย 

1) กลุ่มโรคระบบกล้ามเนื้อและปวดข้อ 

2) กลุ่มอาการไข้หวัด/ไอ/เสมหะ/โควิด 19

3) กลุ่มอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ 

4) กลุ่มอาการท้องผูก/ริดสีดวงทวารหนัก 

5) กลุ่มอาการวิงเวียน/คลื่นไส้ อาเจียน 

6) กลุ่มอาการทางผิวหนัง/แผล 

7) กลุ่มอาการชาจากอัมพฤกษ์ - อัมพาต 

8) กลุ่มอาการนอนไม่หลับ 

9) กลุ่มอาการท้องเสีย 

10) กลุ่มอาการเบื่ออาหาร 

นายแพทย์พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

นายแพทย์พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิเคราะห์ วิจัยและพัฒนา มีการสนับสนุนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และความปลอดภัย รวมทั้งวิจัยด้านประสิทธิภาพของยาจากสมุนไพรที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนอย่างเต็มที่

ทั้งเรื่องการศึกษาควบคุมคุณภาพสมุนไพร เพื่อสร้างฐานข้อมูลของสมุนไพร ยาสมุนไพร ทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย ศึกษากลไกการออกฤทธิ์ของสมุนไพรพัฒนาสูตรตำรับผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพร พัฒนาจัดทำตำรายาสมุนไพรของประเทศ  (Thai Herbal Pharmacopoeia/THP)

เพื่อเป็นข้อกำหนดมาตรฐานคุณภาพ วัตถุดิบ สารสกัดและผลิตภัณฑ์สมุนไพรในท้องตลาด ใช้สำหรับอ้างอิงสำหรับการขึ้นทะเบียนยาสมุนไพร การควบคุมคุณภาพยาสมุนไพรให้ได้มาตรฐานสากลทั้งการผลิตยาเพื่อใช้ในประเทศและเพิ่มมูลค่าการส่งออก ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยจากการใช้ยา