หลังจาก ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เรื่องจังหวัดที่ดำเนินงานตามนโยบาย "30 บาทรักษาทุกที่" ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว พ.ศ. 2567 โดยมีรายชื่อทั้งสิ้น 42 จังหวัด ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในลำดับที่ 42 ด้วยนั้น
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ชี้แจงว่า ในส่วนของ กทม. นั้น ยังไม่ได้เริ่มตามแนวทาง 30 บาทรักษาทุกที่
โดยขณะนี้ สปสช.เขต 13 กทม. อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมรองรับ 30 บาทรักษาทุกที่ ทั้งในส่วนของการเตรียมงบประมาณ การเชื่อมต่อระบบบริการ และการจัดเตรียมหน่วยบริการเพื่อให้การดูแลประชาชน ซึ่งต้องยอมรับว่าในพื้นที่ กทม. เป็นพื้นที่มีความซับซ้อน ทั้งในด้านประชากรและจำนวนหน่วยบริการที่ไม่เพียงพอ
ปัจจุบัน สปสช.ร่วมกับสภาวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้ดำเนินการเชิญชวน ร้านยาคุณภาพและคลินิกเอกชนประเภทต่าง ๆ เข้าร่วมดำเนินการเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้ประชาชนที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) นอกจากไปรักษาได้ที่หน่วยบริการประจำตามสิทธิแล้ว ยังเข้ารับการรักษาที่หน่วยนวัตกรรมที่เข้าร่วมกับ สปสช. ประกอบด้วย
ทั้งนี้ประชาชนสามารถไปใช้บริการนอกเวลาราชการ หรือหลังเลิกงานได้ หรือตามเวลาเปิดทำการของคลินิกเอกชนประเภทต่าง ๆ
นายคารม กล่าวว่า หากในพื้นที่ กทม. มีความพร้อมแล้วที่จะดูแลประชาชนภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ก็จะมีการเปิดตัวนโยบายอย่างเป็นทางการ เพื่อแจ้งการเริ่มบริการให้ประชาชนรับทราบต่อไป
ส่วนที่มีรายชื่อ กทม. อยู่ในประกาศของ สปสช. เรื่องจังหวัดที่ดำเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่นั้น เพื่อเป็นการจัดเตรียมงบประมาณจำนวน 64 ล้านบาทเพื่อใช้ในการดำเนินการรองรับในส่วนที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นพื้นที่ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมการ