จ่อถก ครม. ปมหน่วยบริการฉุกเฉินไม่พอ ทำคนตายนอก รพ. แสนราย/ปี

30 พ.ค. 2567 | 12:25 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ค. 2567 | 12:26 น.

"สมศักดิ์" นั่งหัวโต๊ะประชุมกรรมการ สพฉ.ครั้งแรก พบปัญหาหน่วยบริการฉุกเฉินไม่เพียงพอ ขาดบุคลากรทำให้ประชาชนเสียชีวิตนอกโรงพยาบาลปีละ 100,000 ราย เตรียมนำเรื่องเข้าหารือ ครม. จัดระเบียบรถฉุกเฉินให้มีมาตรฐาน สร้างเบอร์ฉุกเฉินแห่งชาติ

30 พฤษภาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตนได้เป็นประธานการกระชุมคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน ที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของตนหลังจากที่เข้ารับตำแหน่ง โดยที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาและสมรรถนะของระบบการแพทย์ฉุกเฉิน

ปัญหาที่ตนได้รับฟังจากที่ประชุมนั้นจะมีทั้งในเรื่องของความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการซึ่งแนวโน้มของจำนวนผู้ป่วยฉุกเฉินเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี แต่พบว่า ตำบลที่มีหน่วยปฏิบัติการแพทย์ที่รองรับการให้บริการมี 3,943 แห่ง จากทั้งหมด 7,255 แห่ง ยังขาดอีกถึง 3,312 แห่งที่ยังไม่มีซึ่งถือเป็น 46 % เลยทีเดียว ทำให้ระยะเวลาในการตอบสนองไม่ได้ตามมาตรฐานสากลและมีผู้ป่วยฉุกเฉินตายนอกโรงพยาบาลจากกลุ่มโรคฉุกเฉินประมาณ 100,000 คนต่อปี

จ่อถก ครม. ปมหน่วยบริการฉุกเฉินไม่พอ ทำคนตายนอก รพ. แสนราย/ปี

ถือว่า อัตราการตายของผู้ป่วยฉุกเฉินของไทยสูงกว่าประเทศพัฒนามากกว่า 2 เท่าแต่ถ้ากลุ่มที่เข้าถึงบริการ EMS พบว่า มีอัตราการรอดชีวิตถึง 92 % หากได้รับการบริการอย่างเหมาะสมรวดเร็วภายใน 8 นาที

อีกปัญหา คือ ประชาชนยังมีสัดส่วนความรู้ที่ต่ำในการประเมินความเจ็บป่วยฉุกเฉิน การปฐมพยาบาล ขาดการเรียกใช้บริการที่เหมาะสมและทันท่วงที และการขาดแคลนบุคลาการทางการแพทย์ฉุกเฉินระดับวิชาชีพ ศักยภาพของบุคลากรบางส่วนยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

รวมถึงการที่ สพฉ.ได้รับการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาระบบและการสนับสนุนค่าชดเชย ไม่เพียงพอต่อการให้บริการผู้ป่วย ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรที่เพียงพอในการดำเนินการแพทย์ฉุกเฉินท้องถิ่น รวมถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศการแพทย์ฉุกเฉินยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อการให้บริการ

จ่อถก ครม. ปมหน่วยบริการฉุกเฉินไม่พอ ทำคนตายนอก รพ. แสนราย/ปี

ที่ประชุมมีข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา ชื่อว่า โครงการลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในการเข้าถึงระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่มีมาตรฐานคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพื่อลดการเสียชีวิตและความพิการของผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนถึงสถานพยาบาลและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะมีการเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชน สร้างศูนย์การเรียนรู้ชุมชน จัดหาอุปกรณ์ AED ทุกตำบลและแหล่งท่องเที่ยว จัดระบบการแพทย์ฉุกเฉินให้ครอบคลุมและทั่วถึง

จ่อถก ครม. ปมหน่วยบริการฉุกเฉินไม่พอ ทำคนตายนอก รพ. แสนราย/ปี

ยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต และยกระดับปฏิบัติการฉุกเฉินทางอากาศเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว และสุดท้ายคือการพัฒนาดิจิทัลแบบฟอร์มเพื่อการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศ

"แพทย์ฉุกเฉินเป็นหน่วยงานสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยวิกฤต ซึ่งหากเรามีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และบุคลากร รวมถึงมีหน่วยแพทย์ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ จะทำให้เราสามารถช่วยเหลือชีวิตประชาชนได้อย่างมากมาย รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่จะเข้ามายังบ้านเรา ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจได้  

ผมจะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะเรื่องที่ประชุมเสนอแนะ คือ การจัดระเบียบ และการทำหมวดทะเบียนเฉพาะรถฉุกเฉินซึ่งปัจจุบันมีรถฉุกเฉินที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่เยอะมาก ตรงนี้จะเป็นส่วนของกระทรวงคมนาคม

อีกเรื่อง คือ การจัดการเบอร์ฉุกเฉินแห่งชาติที่ควรจะมีเบอร์หลักที่ง่ายต่อการติดต่อของประชาชน รวมถึงอาจจะมีการใช้แอพพลิเคชั่นกลางในการติดต่อได้อีกทางหนึ่งด้วยหรือไม่ ตรงนี้ผมจะนำไปหารือแนวทางในที่ประชุม ครม.และกลับมาประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง นายสมศักดิ์ กล่าว