13 พฤษภาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เพิ่มความมั่นใจในระบบประกันสุขภาพให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมสนับสนุนงานของรัฐบาลอย่างเต็มความสามารถเพื่อเดินหน้าส่งเสริมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
ยกระดับการบริการร่วมกับคลินิกเทคนิคการแพทย์ ให้เป็นหน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ ให้บริการการตรวจแล็บตามชุดสิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) อย่างครบวงจรที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ใกล้บ้าน พร้อมบริการเจาะเลือดให้ผู้ป่วยที่บ้านสำหรับผู้ป่วยติดเตียงช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงการรักษา ลดความแออัดในการเดินทางมาโรงพยาบาล
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้สภาเทคนิคการแพทย์ ได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้บริการเจาะเลือดผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่มีภาวะติดบ้านติดเตียงด้วย โดยมีนักเทคนิคการแพทย์เข้าไปเจาะเลือดให้ผู้ป่วยที่บ้าน ให้บริการตามชุดสิทธิประโยชน์ 24 รายการ ได้แก่
1.บริการตรวจเลือดสำหรับผู้ป่วยนอก รวม 22 รายการ ซึ่งต้องมีใบสั่งตรวจแล็บจากหน่วยบริการที่ดูแล เช่น การตรวจความเข้มข้นของเลือด การตรวจวัดระดับน้ำตาล การตรวจการทำงานของตับ-ไต ไวรัสตับอักเสบบี เป็นต้น
2.เป็นบริการที่สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 2 รายการ ไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งตรวจแล็บ คือ บริการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ และบริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (กลุ่มเป้าหมายอายุ 50-70 ปี)
ปัจจุบันมีคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่สมัครลงทะเบียนร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท โดยร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมสาธารณสุขวิถีใหม่ เพื่อดูแลประชาชนผู้มีสิทธิแล้วประมาณ 90 แห่ง
ทั้งนี้ คาดว่า จะมีคลินิกเทคนิคการแพทย์สมัครเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 ส่วนช่องทางออนไลน์ มีทั้งไลน์ สปสช. (ไลน์ไอดี @nhso) และเฟซบุ๊ก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
"นายกฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพของคนไทย เพิ่มการอำนวยความสะดวกให้คนไทยสามารถเข้าถึงการตรวจและการรักษาได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งใช้นวัตกรรมที่มีการเชื่อมต่อข้อมูลในการรักษาของหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้ทำการรักษาผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง รอบคอบ ลดความแออัด และลดความเสี่ยงจากการเดินทางไปโรงพยาบาล" นายชัย โฆษกรัฐบาลกล่าวทิ้งท้าย