นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า การยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทุกที่ทั้งรัฐและเอกชน เป็นหนึ่งในนโยบายรัฐบาลที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้แถลงต่อรัฐสภา และเป็นนโยบายที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน ทุกพื้นที่ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพจากหน่วยบริการทุกระดับ ทุกสังกัด และยกระดับหน่วยบริการให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้จัดบริการสุขภาพ
ปัจจุบัน มีหน่วยบริการสังกัด สป.สธ. ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน รพ.อัจฉริยะแล้ว 99.7% มีการเชื่อมต่อ Application และไลน์หมอพร้อม ทั่วประเทศแล้วกว่า 40 ล้านคน โดยมีการนัดหมายและให้บริการระบบการแพทย์ทางไกลแล้ว 55,446 ครั้ง, ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล 81,317 ใบ, จัดส่งยาและเวชภัณฑ์โดย Health Rider ครอบคลุมแล้วกว่า 35 จังหวัด 55,376 ออร์เดอร์ ผู้รับบริการกว่า 90% พึงพอใจในระดับดีมาก
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ระยะที่ 3 จะขยายเป็น 6 เขตสุขภาพ คือ เขตสุขภาพที่ 1, 3, 4, 8, 9 และ 12 ซึ่งเมื่อรวมกับ 2 ระยะแรก จะครอบคลุมถึง 45 จังหวัด จากนั้นจะขยายให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ภายในปี 2567 นี้
โดยหลังดำเนินการครบถ้วน ประชาชนทั่วประเทศจะได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการสุขภาพกับสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดระยะเวลารอคอย และที่สำคัญช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
"ขอให้มั่นใจได้ว่า ข้อมูลสุขภาพของประชาชนทุกคน จะได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยกระทรวงสาธารณสุข มีการติดตามตรวจสอบและประเมินความเสี่ยง เพื่อยกระดับการป้องกัน และสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับทุกโรงพยาบาล" รมว.สาธารณสุข กล่าว