“บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” เฟสสอง 8 จังหวัด ขีดเส้น ทั่วประเทศปี 67

02 มี.ค. 2567 | 11:09 น.
อัปเดตล่าสุด :02 มี.ค. 2567 | 11:17 น.
999

บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ เฟสสอง 8 จังหวัด เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ พังงา เริ่ม มีนาคม-เมษายน ขีดเส้น ทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2567

วันนี้ ( 2 มีนาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ของรัฐบาลที่มุ่งมั่นลดความเหลือมล้ำ และสนับสนุนประชาชนให้เข้าถึงบริการสาธารณสุขด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย รวมถึงเป็นการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของประเทศให้มีคุณภาพ ให้ประชาชนเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุขได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อให้พี่น้องคนไทยมีสุขภาพแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

นายคารมกล่าวว่า รัฐบาลได้ยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุข ผ่านโครงการ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ โดยในเบื้องต้นได้ทำนำร่องใน 4 เขตสุขภาพที่มีความพร้อมก่อน คือ จังหวัดแพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และจังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่ 8 มกราคม 2567 ที่ผ่านมานั้น สร้างความพอใจต่อการใช้บริการของประชาชนเป็นอย่างมาก

"ไม่ใช่เฉพาะประชาชน 4 จังหวัดนี้เท่านั้นที่สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ แต่หมายถึงประชาชนคนไทยสิทธิ์บัตรทองทุกคนที่เข้าไปใน 4 จังหวัดดังข้างต้น ต้องการรักษาพยาบาลสามารถใช้บริการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ได้เช่นกัน"นายคารมกล่าว 

นายคารมกล่าวว่า โดยประชาชนสามารถถือ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ไปรักษาที่โรงพยาบาล ร้านขายยา คลินิก แล็บ ได้ทุกสังกัดไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชน ร่วมถึงคลินิกทันตกรรมที่เข้าร่วมโครงการ สำหรับบริการที่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถมารับบริการที่คลินิกทันตกรรมได้นั้น จะเป็นไปตามที่ สปสช. กำหนด คือ บริการตรวจฟัน รวมทั้งงานหัตถการซึ่งจะมี 5 บริการ คือ 1.อุดฟัน 2.ถอนฟัน 3.ขูดหินปูน 4.เคลือบหลุมร่องฟัน และ 5.เคลือบฟลูออไรด์

นายคารมกล่าวว่า โดยเบื้องต้น สปสช.กำหนดใช้สิทธิรับบริการได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีงบประมาณ แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องรับบริการเพิ่ม ก็สามารถไปรับบริการต่อในโรงพยาบาลรัฐ หรือรับบริการต่อที่คลินิกโดยชำระเงินเอง

“โครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ในเฟสสอง  จะมีการขยายเพิ่มอีก 8 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา ในเดือน มี.ค. - เม.ย. หลังจากนั้นจะดูความพร้อม หากไม่มีปัญหาจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทั่วประเทศและขยายทั่วประเทศภายใน 1 ปี คือ ภายในสิ้นปี 2567”นายคารมกล่าว