คนกรุง รับมือฝุ่น PM2.5 ส่อลากยาวถึง 22 ธ.ค.นี้

16 ธ.ค. 2566 | 14:00 น.

GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แจ้งเตือนคนกรุงหลายพื้นที่ รับมือค่าฝุ่นเกินมาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพระดับสีส้ม คาดสถานการณ์ค่าฝุ่นสูงถึงวันที่ 22 ธันวาคมนี้

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 รายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น "เช็คฝุ่น" คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ล่วงหน้า ระบุว่า ระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2566 ค่าฝุ่นPM 2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในเขตกรุงเทพมหานครหลายจุด

พื้นที่เฝ้าระวัง

  • เขตหลักสี่ 
  • เขตจตุจักร
  • เขตคลองเตย
  • เขตพระโขนง
  • เขตบางนา
  • เขตพญาไท
  • เขตดินแดง
  • เขตห้วยขวาง
  • เขตคลองสามวา
  • เขตมีนบุรี
  • เขตสะพานสูง
  • เขตตลิ่งชัน
  • เขตบางกอกน้อย
  • เขตทวีวัฒนา
  • เขตบางแค
  • เขตหนองแขม
  • เขตบางบอน

ทั้งนี้ มีรายงานเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ระบุว่า จังหวัดสมุทรสาคร มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพระดับสีส้ม อยู่ที่ 47.1 ไมโครกรัม ขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 16 เขต สูงสุด 3 ลำดับ ดังนี้ เขตบางกอกใหญ่ เขตธนบุรี และเขตหนองแขม 

อย่างไรก็ดี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวถึงมาตรการและแนวทางในการลดฝุ่นควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กทม.ว่า ขณะนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

มีการสะสมของฝุ่นละอองสูงขึ้น โดยแหล่งกำเนิดฝุ่นที่สำคัญในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำ การเผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรม สถานที่ก่อสร้าง เตาเผาศพ และสถานประกอบการอื่นๆ ซึ่งกรุงเทพฯ และจังหวัดในพื้นที่ปริมณฑล ได้จัดทำแผนในการป้องกัน ตรวจสอบ พร้อมให้ความรู้ทำความเข้าใจ ทั้งกับผู้ประกอบการ และประชาชน

ในส่วนของการตรวจจับรถยนต์ควันดำริมเส้นทางจราจรในจังหวัดปริมณฑล จะดำเนินการตรวจเข้มบนถนนสายหลัก และเส้นทางขาเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ดำเนินการโดยกรมการขนส่งทางบก มี 16 ชุดต่อวัน ทั้งนี้ หากการตรวจสอบมีการระบายมลพิษมีค่าฝุ่นละอองที่กำหนดจะถูกปรับ และจะต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะนี้ กรมควบคุมมลพิษ ได้ติดตามเจ้าของรถยนต์ที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามใช้ และไม่ได้แก้ไขเรื่องควันดำ มาดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายแล้ว โดยโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 5,000 บาท

พร้อมกันนี้ยังประสานกรมการขนส่งทางบกเพื่อจดแจ้งในระบบการต่อทะเบียนซึ่งเจ้าของรถยนต์จะต้องปรับปรุงแก้ไขเครื่องยนต์มิให้มีการปล่อยควันดำเกินมาตรฐาน และนำรถเข้าตรวจสภาพที่กรมการขนส่งทางบกเสียก่อนจึงจะสามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่ง และเจ้าของยานพาหนะ โดยเฉพาะรถยนต์ดีเซลเก่า หมั่นบำรุงรักษาเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่น PM2.5 และสุขภาพอนามัยของทุกคน