ปรินดา ตั้งพิรุฬห์ธรรม ผู้ก่อตั้ง Chama Farm ฉมาฟาร์ม ฟาร์มปลูกสมุนไพร และพันธุ์พืชผัก เปิดเผยว่า ฉมาฟาร์มได้ดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรที่ปลูกด้วยระบบระบบนิเวศออร์แกนิคในการปลูกแบบ 100% ภายใต้แนวคิดอาหารเป็นยา
ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความใส่ใจต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ เพื่อให้ห่างไกลจากความเจ็บป่วยมากที่สุด โดยการนำผลิตผลมาแปรรูปด้วยนวัตกรรมที่สามารถคงคุณภาพและคุณประโยชน์ไว้ได้ใกล้เคียงรูปแบบสดมากที่สุด ภายใต้แบรนด์ Chama Farm และ Chama Herbs
สำหรับคำว่าออร์แกนิคหรือเกษตรอินทรีย์นั้น จะต้องได้รับการเพาะปลูกในระบบนิเวศออร์แกนิคประกอบด้วย 5 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่
อย่างไรก็ดี ด้วยการดำเนินตามปัจจัยการเพาะปลูกพืชออร์แกนิคหรือเกษตรอินทรีย์ทั้ง 5 ขั้นตอนอย่างเคร่งครัดส่งผลให้ Chama Farm เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตอาหารที่มีความปลอดภัย ด้วยเครื่องหมายการันตีทั้งในประเทศและในระดับสากลมากมาย อาทิ ใบรับรองการเพาะปลูกระบบเกษตรอินทรีย์ มาตรฐาน IFOAM หรือ มาตรฐานสินค้าอินทรีย์เพื่อการนำเข้าในหลากหลายประเทศ มาตรฐานระบบเกษตรอินทรีย์สหภาพยุโรป และ มาตรฐานระบบเกษตรอินทรีย์สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นต้น
ปรินดา กล่าวอีกว่า ล่าสุดผลิตภัณฑ์ Chama Farm และ Chama Herbs ได้รับเลือกให้เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพแห่งปี หรือ Premium Herbal Product 2566-2568 โดยกองสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งในปี 2566 มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ น้ำมันมะรุมออร์แกนิค ตรา Chama farm ,ฟรุ๊ตตี้-ซี เม็ดเคี้ยวจากพืชสมุนไพรออร์แกนิค ตรา Chama farm ,ยาขี้ผึ้งกลิ่นน้ำมันตะไคร้หอมตรา Chama Herbs และยาพิมเสนน้ำกลิ่นตะไคร้หอมตรา Chama Herbs