เตือน!Omicron สายพันธุ์ย่อย EG.5 จ่อระบาดพุ่ง

23 ก.ค. 2566 | 12:04 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 12:05 น.

เตือน!Omicron สายพันธุ์ย่อย EG.5 จ่อระบาดพุ่ง หมอธีระเผยข้อมูลล่าสุดจาก US CDC พบมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นชัดเจน ขณะนี้กว่า 11.4% ในสหรัฐฯ ด้านญี่ปุ่นครองสัดส่วนการตรวจพบที่สูงขึ้นมากทั่วประเทศ

โควิด-19 ยังคงมีการกลายพันธุ์ก่อนกำเนิกสายพันธุ์และแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะสายพันธุ์ Omicron (โอมิครอน) ซึ่งครองสัดส่วนมากที่สุดทั่วโลก

ล่าสุดรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความระบุถึงสถานการณ์โควิดทั่วโลกว่า 
Omicron สายพันธุ์ย่อย EG.5 กำลังมา
 
หมอธีระ บอกว่า ข้อมูลล่าสุดจาก US CDC จนถึง 22 กรกฎาคม 2566 ชี้ให้เห็นว่า EG.5 นั้นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นชัดเจน ขณะนี้ราว 11.4% 

หากดูการกระจายทั่วอเมริกา จะพบว่าเกิน 10% กันแทบทั้งหมด ยกเว้นตอนกลางและตอนใต้ ในขณะที่แถบ Northeast เกือบ 20%

ส่วนในประเทศญี่ปุ่นนั้น ข้อมูลจาก Honey H. ชี้ให้เห็นว่า EG.5.1 นั้นครองสัดส่วนการตรวจพบที่สูงขึ้นมากทั่วประเทศ ยกเว้นแถบ Miyagi

Omicron สายพันธุ์ย่อย EG.5 จ่อระบาดแรง

EG.5.x นั้นเป็นการกลายพันธุ์ต่อยอดมาจากตระกูล XBB.1.9.2 โดยมีตำแหน่งกลายพันธุ์สำคัญคือ F456L ซึ่งเชื่อว่าส่งผลให้มีสมรรถนะการขยายการระบาดที่สูงขึ้นกว่าเดิม

หมอธีระ บอกอีกว่า เด็กที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 มีอัตราสูงขึ้น

งานวิจัยตีพิมพ์ใน JAMA Network Open เปรียบเทียบอัตราการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในเด็กและวัยรุ่น อายุน้อยกว่า 19 ปี พบว่า ในปี 2020 ที่โควิดเริ่มระบาดทั่วโลกนั้น มีเด็กที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 มากกว่าปีก่อนหน้าราว 14% ในขณะที่ในปี 2021 อัตราการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ก็ยังสูงขึ้นไปอีก โดยมากกว่าปี 2019 ถึง 27%

แม้ว่าจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมว่าสาเหตุหลักจะมาจากโควิดโดยตรงหรือไม่ มากน้อยเพียงใด หรือจะมาจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆ ของเด็กและวัยรุ่น ที่ส่งผลต่อปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค แต่อย่างน้อยที่สุด อัตราการเกิดโรคที่พบมากขึ้นนั้นก็เป็นตัวเตือนให้ระบบสุขภาพทั่วโลก รวมถึงผู้ปกครอง ให้ความใส่ใจสุขภาพแก่เด็กและวัยรุ่นด้วย