ยอดผู้ป่วย "ไข้เลือดออก" พุ่งสูงกว่าปีก่อน 3 เท่า

05 ก.ค. 2566 | 16:45 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.ค. 2566 | 16:58 น.

ปลัดสธ. ห่วงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง พบผู้ป่วยแล้ว 2.7 หมื่นรายสูงกว่าปีที่แล้ว 3 เท่า เสียชีวิต 23 ราย เผยเคยป่วยแล้วป่วยอีกได้ แนะป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัดดีที่สุด 

กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกล่าสุด (5 กรกฎาคม 2566) โดยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขว่า ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

โดยในปี 2566 ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1-25 มีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสม 27,377 ราย อัตราป่วยคิดเป็น 41.37 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 23 ราย อัตราป่วยตาย ร้อยละ 0.08

เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งพบผู้ป่วย 9,736 ราย อัตราป่วย 17.46 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 7 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 0.09 จำนวนผู้ป่วยสูงกว่าถึง 3 เท่า ทั้งยังมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียชีวิตสะสมพบทั้งกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ 

นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มว่า กรณีที่มีความเชื่อว่าเมื่อเคยป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว หากป่วยอีกอาการจะไม่รุนแรงนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด เนื่องจากเชื้อไวรัสเดงกีที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ ซึ่งแต่ละปีสายพันธุ์ที่ระบาดอาจแตกต่างกัน

การติดเชื้อครั้งแรกอาการอาจจะไม่รุนแรงมากนักแต่การติดเชื้อครั้งที่สอง อาจมีอาการรุนแรงขึ้นในทุกสายพันธุ์ โดยเฉพาะหากเป็นการติดเชื้อคนละสายพันธุ์กับครั้งแรก

ส่วนวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกขณะนี้ยังไม่ได้นำมาใช้ในการป้องกันโรคเป็นหลักแม้ในการทดลองจะได้ผลดีในบางสายพันธุ์ซึ่งเมื่อฉีดวัคซีนในบางคนที่เคยติดเชื้อมาแล้ว จะเหมือนเป็นการติดเชื้อครั้งที่สอง หรือคนที่ไม่เคยเป็นไข้เลือดออกแล้วฉีดวัคซีน เมื่อติดเชื้อไข้เลือดออกอาจจะทำให้อาการรุนแรง

นพ.โอภาส ยืนยันว่า วิธีที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด ร่วมกับการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย โดยได้กำชับให้ทุกเขตสุขภาพกำกับติดตามการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่พบผู้ป่วยไข้เลือดออก ผู้ป่วยเสียชีวิตและพื้นที่ใกล้เคียง

ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานได้แจ้งผ่านกระทรวงมหาดไทย ให้ทุกจังหวัดจัดกิจกรรมทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในชุมชน วัด ศาสนสถาน ซึ่งพบค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายสูง และให้ อปท. สนับสนุนทรัพยากร

สำหรับประชาชนขอให้ใช้มาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง เพื่อไม่ให้ยุงลายพักอาศัย, เก็บขยะและเศษภาชนะที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และเก็บน้ำให้มิดชิด ปิดฝาภาชนะ หรือเปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน หรือปล่อยปลากินลูกน้ำ หรือใส่ทรายฆ่าลูกน้ำยุงลาย

ทั้งนี้ สามารถป้องกันได้ทั้งไข้เลือดออก ไข้ปวดข้อยุงลาย และไข้ซิกา รวมทั้งป้องกันการถูกยุงกัด ด้วยการสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด นอนในมุ้ง ใช้ยาจุดกันยุง หรือทายาป้องกันยุง