ติดโควิดมีภูมิต้านทานแล้ว ยังต้องฉีดวัคซีนอีกหรือเปล่า ที่นี่มีคำตอบ

01 มิ.ย. 2566 | 01:00 น.
อัปเดตล่าสุด :01 มิ.ย. 2566 | 01:15 น.
2.0 k

หลายคนเชื่อว่า ผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อหายแล้วก็จะมีภูมิต้านทานโดยธรรมชาติ ไม่ต้องฉีดวัคซีนอีก เรื่องมีภูมิฯนั้น "จริง" แต่ที่คิดว่าไม่ต้องฉีดวัคซีน ถือว่า"คิดผิด” เพราะอะไร มาฟังคำตอบกัน  

 

ผู้ป่วยโควิด หรือ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อหายแล้ว ก็จะมี ภูมิคุ้มกัน เกิดขึ้น นั่นอาจจะถือว่าเป็นข้อดีก็ได้ แต่ข้อเท็จจริงที่มีงานวิจัยยืนยันก็คือ ภูมิคุ้มกันชั้นดีที่ได้มาจาก การหายป่วยโควิด นั้น มีอายุสั้น ภูมิคุ้มกันที่ได้จากการติดเชื้อโควิดตามกระบวนการของร่างกายนั้น ไม่เพียงพอต่อการป้องกันเชื้อดังกล่าวในระยะยาว การกลับมาติดเชื้อซ้ำอีกครั้งของผู้ที่หายจากโควิด-19 แล้ว จึงสามารถเกิดขึ้นได้อีกในเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อจะค่อย ๆ ลดลงๆ

นอกจากนี้ เมื่อสายพันธุ์ใหม่ๆ ของโควิดเกิดขึ้นมา (หรือเกิดการกลายพันธุ์) ภูมิคุ้มกันที่ได้มาจากการติดเชื้อสายพันธุ์เดิม ก็จะด้อยประสิทธิภาพลงในการสู้กับโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ๆ

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ผู้หายป่วยที่มีภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อโควิดมาแล้วครั้งหนึ่ง มักจะติดเชื้อซ้ำได้อีก แพทย์จึงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการที่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด แม้จะมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นหลังจากป่วยแล้วก็ตาม

เมื่อหายป่วยโควิดแล้ว ควรได้รับวัคซีนหลังจากนั้น 1-3 เดือน

หายป่วยโควิดแล้ว ควรได้รับวัคซีนเมื่อไหร่ ต้องรอกี่เดือน

แนวทางการฉีดวัคซีน หลังติดเชื้อโควิด-19 แล้ว มีดังนี้

  • ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อหายจากโรคแล้ว จะยังมีภูมิต้านทานในร่างกายอยู่ระยะหนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ลดลง จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำได้ ดังนั้น เมื่อหายดีแล้วประมาณ 1-3 เดือน แนะนำให้ฉีดวัคซีน 1 เข็ม เพื่อกระตุ้นระดับภูมิต้านทานให้สูงขึ้น โดยพบว่าจะมีระดับภูมิต้านทาน สูงกว่าผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน
  • หมายเหตุ ในกรณีของผู้ที่อยู่ในกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยเสี่ยงสูง และอยู่ในระยะกักตัวเพื่อสังเกตอาการ ไม่แนะนำให้รับวัคซีน ควรรอจนพ้นระยะสังเกตอาการและมั่นใจว่าไม่ติดเชื้อก่อน จึงค่อยรับวัคซีน อย่างไรก็ตาม หากได้รับวัคซีนในขณะที่ติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการ ก็ไม่มีผลอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย

ฉีดวัคซีนหลายชนิดปนกัน จะเป็นอันตรายไหม?

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ปัจจุบัน ประชาชนในประเทศไทยมีการรับวัคซีนหลายชนิดปนกัน ไม่ว่าจะเป็น วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated Vaccines) วัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Viral Vector Vaccines) หรือวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA Vaccine) ซึ่งจากการศึกษายังไม่พบหลักฐานว่า การรับวัคซีนหลายชนิดปนกันเป็นอันตราย แต่การไม่รับวัคซีนเลย อาจเกิดอันตรายจากโควิด-19 ได้ เพราะอาจทำให้เกิดปอดอักเสบ และนำไปสู่การเสียชีวิต

รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากโควิด-19 ได้ 2-3 เท่า

การได้รับวัคซีน จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อซ้ำได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยพบว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 หรือเข็มที่ 4 จะสามารถช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากโควิด-19 ได้ 2-3 เท่า (อ้างอิงข้อมูลจาก: วารสารทางการแพทย์นิว อิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซิน, ประเทศอิสราเอล)

ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ฉีดเมื่อไรดี?

สำหรับใครที่ถึงกำหนดรับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 3, เข็ม 4) และยังไม่เคยได้รับวัคซีนชนิด mRNA มาก่อน ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จำเป็นจะต้องได้รับวัคซีนชนิดนี้ เพราะการรับวัคซีนมีประโยชน์ ดังนี้

  • ลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อ
  • ลดความรุนแรงของโรค เมื่อเกิดการติดเชื้อ
  • ลดอาการ และลดความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อไปหาผู้อื่น
  • ลดภาวะ Long Covid หรืออาการหลังจากติดเชื้อโควิด-19

 

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย / โรงพยาบาลศิครินทร์