จากกรณี “ซีเซียม 137” ของบริษัท เนชั่นแนลเพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด หายไปจากโรงงานไฟฟ้าพลังงานไอน้ำใน ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 2566 โดยชิ้นส่วนที่หายไป มีลักษณะเป็นท่อกลม เจ้าหน้าที่รัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเร่งปูพรมเพื่อค้นหาท่อสารซีเซียม 137 นี้ ก่อนที่จะสร้างความเสียหายต่อสุขภาพ และชีวิต ของผู้สัมผัส
กระทั่งล่าสุด (20 มี.ค.66)ได้รับการยืนยันจาก นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ในการแถลงข่าวว่า ได้ตรวจพบสารซีเซียมในกระเป๋าบิ๊กแบ็กขนาดใหญ่ ในโรงงาน พื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยได้สั่งให้พนักกงานในโรงงานดังกล่าว กว่า 70 คนหยุดพักงานชั่วคราว เพื่อตรวจเลือด และสังเกตอาการ
อันตรายจากสาร ซีเซียม 137
ซีเซียม 137 เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งจะก่อมะเร็งเมื่อได้รับสารปนเปื้อนเข้าไปในร่างกาย ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ ตับ และไขกระดูก รังสีจะเข้าไปทำลายแอนติบอดี้ในร่างกาย และต่อมาผมจะเริ่มร่วง และอาจจะทำให้ผิวหนังของผู้สัมผัสเกิดอาการเน่าภายใน 3 วัน ความผิดปกติจากการได้รับรังสีสูงแบบเฉียบพลัน ซึ่งแบ่งออกได้ 3 กลุ่มอาการ ระบบผลิตเลือด ระบบทางเดินอาหาร และ ระบบประสาทกลาง
อาการ เมื่อสัมผัส ซีเซียม 137
เมื่อได้รับสารกัมมันตรังสีในปริมาณมาก มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง ท้องเสีย อ่อนเพลีย มีไข้ ผิวหนังที่ถูกรังสีอาจแดง อักเสบ ไหม้ หลุดลอก ผมหรือขนหลุดร่วง นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อระบบเลือด เม็ดเลือดขาวถูกทำลาย เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือดต่ำ กดไขกระดูก ระบบประสาท ชักเกร็ง และเสียชีวิตได้
วิธีปฐมพยาบาล จาก “ซีเซียม 137”
ย้อนดูอุบัติเหตุจาก ซีเซียม 137